โดย : พรพระจันทร์
ลิขสิทธิ์ : Magic Time Media & เติมฝัน (termfun.com)
https://www.youtube.com/watch?v=T_Wkp5gxDQI
บทนำ
เป็นวันเสาร์ที่อากาศร้อนนรกแตกที่สุดเท่าที่ชีวิตผมเคยประสบพบเจอมา หอกาก ๆ ที่มีแค่พัดลมติดเพดานเก่า ๆ บรรยากาศห้องที่ไม่เจริญสายตายิ่งทำให้ใจของผมหงุดหงิด
“แม่ง ร้อนฉิบหาย” แต่บ่นไปก็เท่านั้นมันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลย ไอ้พัดกระดาษที่อยู่ในมือผมก็พัดมันจนจะขาดออกจากกันอยู่แล้ว ไม่ช่วยอะไรเลยสักนิด
สิ่งเดียวในตอนนี้ที่ทำให้ผมรู้สึกเย็นสบายได้คือ ‘งูคิงสเนค’ เป็นงูที่ผมแอบเลี้ยงไว้ที่หอ อย่าเพิ่งเข้าใจผมแบบแปลก ๆ โยนอคติทิ้งไปก่อน คนเลี้ยงงูไม่ใช่คนเลวร้ายหรือแปลกประหลาด มันก็แค่รสนิยมความชอบส่วนบุคคลแล้วอีกอย่างงูผมไม่มีพิษ เชื่องสุดๆ ไม่หลุดแน่นอน
“มามะโคล มานอนกับพ่อดีกว่า” ผมจัดการจวกหยิบงูคิงสีดำเกร็ดแวววาวออกมาจากกล่อง ลูกชายผมไม่มีขัดไม่มีขืนนิ่งสง่าให้ผมอุ้มออกมาจากกล่องไม่ฉกไม่กัดเลย เอาจริงนะ ตั้งแต่เลี้ยงมาปีกว่าโคลไม่เคยกัดหรือฉกผมเลยสักครั้ง
ผมจัดการเอา ‘โคล’ของผมมาวางแหมะไว้ที่หน้าท้อง สารภาพตามตรงเวลาร้อน ๆ ผมทำแบบนี้บ่อยมากคือถอดเสื้ออกแล้วเอาโคลออกมาจากกล่องและวางแหมะลงบนท้อง คือตัวงูเนี่ยเย็นมากนะ ผิวสัมผัสเหมือนงูของเล่น งูยางเย็น ๆ โคลเค้าก็จะเลื้อยไปเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่ชอบเลื้อยมาที่คอบอกตามตรงว่าโคตรจั้กจี้
“อื้อ ทำไมวันนี้วอแวที่คอจังวะโคล” ผมว่าแล้วหดคอไปมา
“คงถึงเวลาแล้ว”
เสียงใครวะ สาบานเลยว่าผมไม่ได้หูฝาดเมื่อกี้ผมได้ยินเสียงแหบพร่าของใครสักคนจริง ๆ จากที่กำลังเคลิ้ม ๆ หลับแม่งตื่นเลย
“มองไปทางไหน เสียงนั่นมาจากข้า”
เสียงแม่งใกล้มาก เหมือนมีคนพูดอยู่ตรงหน้า จากที่นอน ๆ อยู่ ผมนี่ลุกเลย มองซ้ายมองขวามองหน้ามองหลัง ไม่มี ในห้องนี้มีแค่ผมคนเดียวที่อยู่แล้วมันจะมีเสียงผู้ชายอีกคนได้ยังไง
“ผีหลอกกูแล้วปะวะ”
“หึ”
“แน่จริงมึงออกมา มีปัญญามาได้แค่เสียงเหรอกระจอกสัส!” มาสิมึง กูหยิบไม้กวาดละผีเวรเล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับ ‘พันหมื่น’ เดี๋ยวมึงได้เจอไม้กวาดหวดหน้าแน่
‘พันหมื่นวางอาวุธลงซะ”
เสียงแหบทุ้มต่ำดังขึ้นมาอีกครั้งแต่ยังไม่ทันที่ผมจะแหกปากด่าทออะไรมัน เสียงระเบิดที่รุนแรงก็ดังขึ้นพร้อมกับม่านควันสีดำทะมึนราวกับเมฆฝนพายุขนาดใหญ่ทะลักทะลวงพุ่งออกมา ควันนั่นกระจายตัวอย่างรวดเร็วเพียงเสี้ยววินาทีห้องแคบ ๆ ของผมก็ถูกปกคลุมด้วยม่านหมอกสีดำ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากเร็วพอ ๆ กับสติของผมที่เริ่มเลือนหายไป
.
.
“โอ๊ย ปวดหัวโคตรเลย”
“ตื่นแล้วเหรอ เจ้าสลบไปนานพอสมควรมนุษย์นี่อ่อนแอจังเลยนะ” ใครวะ?
เมื่อเริ่มรู้สึกตัวได้สักพักผมก็รู้ทันทีเลยว่าสิ่งที่หัวของผมกำลังนอนหนุนอยู่ไม่ใช่หมอนแต่เป็นขาของใครสักคน ผมรีบเด้งตัวขึ้นมาแต่เพราะเร่งรัดเกินไปหน่อยจึงทำให้ไอ้คนที่เป็นเจ้าของขาคู่นั้นหลบผมไม่ทัน กลายเป็นว่าตอนนี้หน้าของผมกับหน้าของใครสักคนแม่งอยู่ใกล้กันมาก ชนิดที่ว่าตาต่อตา ปากต่อปาก ไอ้คนแปลกหน้าไม่ยอมหลบสายตาผมเลยแถมยังขยับตัวเข้ามาใกล้กว่าเดิมอีก
‘คนเหี้ยอะไรโคตรหล่อเลย ไม่ดิ เป็นคนรึเปล่าวะ”
ใบหน้าที่เป็นกรอบคมเลื่อนเข้ามาใกล้กับหน้าของผมเรื่อย ๆ ริมฝีปากหนาโน้มเข้ามาก่อนจะแนบชิดติดกับปากของผม ฟันคมขบกัดอย่างแรงที่เนื้อปากเป็นเหตุให้ผมต้องเผลอตัวอ้าปากออกนั่นจึงทำให้คนตัวใหญ่ตรงหน้าละเลงลิ้นรังแกผมได้ ลิ้นหนาไล่เลียไปตามไรฟันก่อนจะฉกชิมลิ้นของผมเข้าไป
‘พันหมื่นมึงมันคนใจง่าย’