บทที่ 1
“เชี้ย!” ตั้งสติได้ผมก็รีบเอาตัวเองออกมาทันที
“คะ ใคร มะ มึงเป็นใคร?!” ว่าพร้อมถูปากตัวเองแรง ๆ ตั้งแต่เกิดมานี่เป็นครั้งแรกเลยที่โดนจูบ ปกติมีแต่ไปจูบคนอื่นก่อนตลอดแถมโดนใครจูบไม่จูบดันโดนผู้ชายแปลกหน้าตัวเท่าควายป่าจูบ กูละอยากตาย
“พูดดิวะ เป็นใบ้เหรอมึง”
ไอ้คนแปลกหน้าถอนหายใจออกมาช้า ๆ ชัด ๆ บรรยากาศโดยรอบคือเงียบมีเพียงเสียงถอนหายใจกับสียงพัดลมเพดานเท่านั้นที่ดังก้องทั่วห้อง และเพราะความเงียบชั่วขณะนี้แหละที่ทำให้สติผมเริ่มกลับมา พอมาลองมองแบบชัด ๆ แล้ว ผู้ชายตรงหน้าผมแม่งโคตรหล่อเลยนี่หว่าอย่างกับเทพบุตรแปลงกาย ผิวขาวเนียนละเอียดแม่งแบบขาวเนียนเหมือนไม่ใช่ผิวคนตัดกับเส้นผมสลวยสีดำที่แค่มองดูก็รู้ได้ว่าโคตรนุ่มมือแน่ ๆ ไหนตาสีแดงก่ำเลือดที่ไม่มีแววตานั่นอีก มันเป็นไปได้เหรอวะมนุษย์ที่ไม่มีแววตา
“ฟังให้ดี”
“…”
“ข้าเป็นราชาซาตานที่แปลงเป็นงูตัวนี้ ตอนนี้ถึงเวลาที่เจ้าต้องตายจากโลกมนุษย์และไปจุติเป็นเมียข้าในดินแดนนรกแล้ว”
ไม่รู้จะช็อคกับอะไรก่อนดีทั้งงูที่กลายร่างเป็นผู้ชายหน้าหล่อ ทั้งเรื่องที่ว่ามันเป็นราชาซาตาน ทั้งที่ว่าผมต้องตายและที่ปังที่สุด ปังมาก ปังหลายพ่อคือ จุติไปเป็นเมียราชาซาตานในดินแดนนรก
“ไปใหญ่แล้ว มึงเป็นคนบ้าที่แอบเข้ามาในห้องกูแล้วก็เอางูกูไปซ่อนเอางูกูคืนมา”
“ก็คิดไว้อยู่แล้วว่ามนุษย์โง่เขลาย่อมไม่เชื่อ” พูดจบไอ้คนประหลาดก็ยืนขึ้นเต็มความสูง เออ สูงมาก น่าจะ 188 โคตรหุ่นนักกีฬา กล้ามท้องมาเต็มตัดภาพมาที่ผม 165 ผอมบางแรงน้อยแต่กินเยอะ
“มะ มึงไม่ได้ใส่เสื้อผ้า เชี้ยเอ๊ย กูมาเจอคนโรคจิตเหรอวะไม่ไหวละต้องโทรแจ้งตำรวจ”
“หุบปากซะพันหมื่น” ไอ้ยักษ์หันมาพูดเสียงเข้มต่ำกับผมก่อนที่มันจะตวัดสายตาสีแดงก่ำที่ดูยังไงก็เหมือนใส่คอนแทคเลนส์ราคาแพงเพราะแม่งสีกลืนไปกับดวงตามากเหมือนเป็นสีตาจริง ๆ มันยกมือมาตรงหน้าผมก่อนจะดีดนิ้วดัง ป็อก!
“เงียบปากไปสักพัก ไม่ต้องตกใจที่เจ้าเปร่งเสียงออกมาไม่ได้มันเป็นเวทย์เดี๋ยวก็คลาย” ไอ้ยักษ์มันว่าก่อนที่จะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของผม ค้น ๆ รื้อ ๆ จนสะใจก่อนจะเดินออกมา
“ใส่ไม่ได้สักตัว” ผมได้แต่มองการกระทำของมันอย่างแค้น ๆ ปนสับสน จะอ้าปากพูดก็ไม่ได้แม่งเหมือนมีอะไรสักอย่างเย็บปากไว้อยู่ มันใช้ทริคมายากลอะไรวะทำให้หยุดพูดได้ขนาดนี้มันไม่ขี้ ๆ แล้วนะเว้ย
“อยากตายแบบไหน” ตอนนี้ไอ้คนประหลาดกำลังใช้มือควานเข้าไปในช่องใต้ตู้หนังสือของผมและมันก็ควานหาของที่ซ่อนไว้จนเจอ
นั่นเป็นช่องที่ใช้ซ่อนขนมของผม ผมจะซ่อนไว้ตรงนั้นตลอดเพื่อแอบพวกเพื่อน ๆ สายจ้องแดกฟรี พวกมันมาหอผมทีไรของกินผมหายวับตลอดผมเลยต้องมีที่ซ่อนแต่ไอ้คนแปลกหน้านี่ดิ รู้ดีมากทั้งที่ผมไม่เคยบอกใครเลยเรื่องที่ซ่อนแต่มันกลับจับรื้อทุกอย่างในห้องได้อย่างช่ำชองรู้ทุกที่ซ่อนเหมือนกับว่าอยู่มานานรู้จุดทุกอย่าง
“หยุดค้นของกูสักทีแล้วก็หาอะไรมาคลุมตัวด้วย เชี้ย กูพูดได้แล้ว”
“เจ้าอยากตายแบบไหน” ไอเวรไม่ได้ฟังผมเลยสักนิด มันจับจ้องแต่มาม่าที่มันค้นเจอ
“อย่าให้รู้นะว่าใครซ่อนกล้อง กูจะถีบหน้าแม่ง”
“พึมพำอะไรของเจ้า เจ้าไม่ได้มีเวลามากนะ เจ้าต้องตายวันนี้และเดินทางไปจุติที่ดินแดนนรกเดี๋ยวนี้ ข้ารอเวลามาหลายร้อยปีเฝ้ามองเจ้าจากนรกและในที่สุดก็ตัดสินใจแปลงกายมาเฝ้าดูเจ้าอย่างใกล้ชิดที่โลกมนุษย์ เจ้าผ่านบททดสอบยังไงก็ได้เป็นเมียข้า”
‘คือกูต้องร้องตะโกนดีใจรึเปล่าที่มีหนุ่มหล่อเท่มาเฝ้ามองแบบนี้’
ร่างสูงหยุดสนใจกับมาม่าในมือ สายตาคมกริบสีแดงก่ำตวัดขึ้นมามองผม พูดด้วยแววตานิ่ง ๆ เหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาและเพราะความนิ่งนี่แหละที่ทำให้ผมเริ่มสับสนแล้วว่าหรือนี่คือความจริง ผมไม่ได้ฝันหรือเจอคนบ้าบอแต่งูที่ผมเลี้ยงคือราชาซาตานจริง ๆ
ป๊อก !
เสียงดีดนิ้วดังขึ้นอีกครั้งแต่รอบนี้เสียงของผมไม่ได้หายไปแต่กลายเป็นว่าที่ร่างกายกำยำของไอ้คนประหลาดตรงหน้ามีเสื้อผ้าเด่นชัดขึ้นมาแทน เสื้อยืดสีเรียบ ๆ กับกางเกงยีนส์ธรรมดา ๆแต่แม่งพอมาอยู่บนตัวของไอเวรตรงหน้านี่แล้วคือโคตรดีเหมือนหลุดออกมาจากนิตยาสาร พระเจ้าแม่งโคตรลำเอียงเลย
“พร้อมตายหรือยัง”
“หะ เหี้ย! ใกลัไป มึงเข้ามาใกล้ขนาดนี้ได้ไงวะ กูมองมึงตลอดไม่เห็นมึงเดินหรืออะไรเลย”
“วาร์ป” โคตรจะล้ำ แน่แล้วละไอ้สิ่งตรงหน้าผมไม่ใช่มนุษย์แน่ ๆ
“ว่าไง”
“กะ กูยังไม่ได้ตกปากสัญญาเลยว่าจะตายหรือจะเป็น มะ เมีย แม่งเอ๊ย”
คนตรงหน้าผมยกยิ้มมุมปากขึ้น แม่ง หล่อสัส พระเจ้าลำเอียงสัส ๆ มือหนาเชยคางของผมขึ้นมาก่อนจะประสานดวงตาคมกริบมาที่ดวงตาของผม ปากหยักยังคงยิ้มหยันใส่ผมอยู่พอ ๆ กับหน้าคมเข้มที่เลื่อนเข้ามาช้า ๆ
“ถ้าจูบกับปีศาจนั่นเท่ากับว่าเจ้าได้ทำพันธะสัญญากับปีศาจไปแล้วเจ้าคนซื่อ”
‘ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก’