แหวนวงนี้ : Wind life

นิยายสั้นแนวสืบสวน สอบสวน (Suspense/ Mystery/ Crime)

โดย : Wind life
ลิขสิทธิ์ : Magic Time Media & เติมฝัน (termfun.com)

คุณเชื่อเรื่องวิญญาณและโลกหลังความตายไหม คุณเชื่อหรือไม่ว่าวิญญาณที่ตายไปแล้วแต่ยังหาสาเหตุการตายที่แท้จริงไม่ได้วิญญาณเหล่านั้นจะยังคงวนเวียนอยู่ทั่วไป เพื่อรอว่าสักวันพวกเขาจะถูกปลดปล่อยจากใครสักคน ที่สามารถหาสาเหตุการตายที่แท้จริงได้

“แพร ลงมากินข้าวได้แล้วลูก”

“เดี๋ยวหนูลงไปค่ะ ขอดูหนังเรื่องนี้ให้จบก่อน”

“ดูหนังแนวนี้อีกแล้วหรอลูก แม่ดูแล้วปวดหัวแทน”

คำถามซ้ำๆที่เธอมักจะได้ยินจากแม่ของเธอและคนใกล้ตัวอยู่บ่อยๆ แต่เธอก็ไม่สนใจว่าใครจะมาพูดอย่างไร เพราะการที่เธอดูหนังเกี่ยวกับการสืบหาสาเหตุการตายเหล่านี้ ทำให้เธอได้ฝึกคิดวิเคราะห์และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ แต่เธอไม่รู้เลยว่าในวันข้างหน้าเธอจะได้นำความรู้มาใช้ในชีวิตจริง

เธอตัดสินใจสอบเข้าเรียนในโรงเรียนตำรวจหญิง เพราะนั้นคือความฝันของปู่ที่อยากจะเห็นเธอใส่ชุดตำรวจและมียศมีเงินเดือนสูงๆ แต่ไม่ทันไรปู่ก็มาจากเธอไปเสียก่อน แต่เธอเชื่อเสมอว่าปู่ยังคงเฝ้ารอวันที่เธอเรียนจบและได้เป็นอย่างที่ปู่อยากให้เป็น

“แพร พรุ่งนี้ตื่นเช้าหน่อยนะลูก จะได้ไปทำบุญให้ปู่ด้วยกัน”

ผ่านมา 3 ปีแล้วที่ปู่จากเธอไปแต่เหมือนกับว่าเธอยังข้องใจเกี่ยวกับการเสียชีวิตของปู่ เธอไม่เชื่อเลยว่าปู่ของเธอจมน้ำเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์อย่างที่คนอื่นๆ เชื่อ เธอรู้จักปู่ของเธอดี ปู่ของเธอเป็นคนที่ชอบดื่มสุราและเล่นการพนันเป็นประจำ ปู่เป็นคนใจดีและมีน้ำใจต่อทุกคน แต่จะชอบโอ้อวดสิ่งของที่ตนมีกับคนอื่นอยู่เสมอ

ถ้าหากปู่เมาสุรา ปู่จะนอนหลับไปโดยที่ไม่สนใจว่าที่นั้นคือที่ไหน และไม่มีทางที่จะออกมาเดินริมบ่อน้ำในยามดึกแน่นอน แต่มันก็เป็นแค่เพียงความคิดของเธอ เพราะเธอยังไม่มีหลักฐานอะไร ที่สามารถระบุได้ว่าปู่ของเธอ ไม่ได้แต่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุอย่างที่ทุกคนเห็น
.
.
.

เธอเดินไปอ่านหนังสือริมบ่อน้ำที่ที่ปู่ของเธอเสียชีวิต เธอชอบมาอ่านหนังสือที่นี่มากเพราะบรรยากาศมันชั่งเงียบสงบได้ยินเพียงเสียงลมและเสียงนกที่ร้องประสานกันอย่างไพเราะ และที่สำคัญการได้มาอ่านหนังสือที่นี่ทำให้เธอรู้สึกว่ามีปู่มาอยู่ข้างๆ เธอ เธอจึงมีกำลังใจในการอ่านมากขึ้น แต่ทันใดนั้นเองที่คั่นหนังสือก็ปลิวไปตกบนพื้นดินข้างๆต้นกล้วยต้นหนึ่ง

“ทำไมจู่ๆ ลมก็แรงหรือว่าฝนกำลังจะตก”

“เอ๊ะ แล้วที่คั่นหนังสือหายไปไหน เมื่อกี้ปลิวมาตรงนี้ไม่ใช่หรอ”

เธอพยายามเขี่ยดินแถวๆ นั้นเพื่อหาที่คั่นหนังสือ แต่ในขณะที่เธอกำลังเขี่ยดินอยู่ลมก็พัดแรงขึ้นเรื่อยๆ

เธออยากรีบกลับเข้าไปในบ้าน แต่เธอไม่สามารถทิ้งที่คั่นหนังสือได้เพราะมันเป็นที่คั่นหนังสือสุดโปรดของเธอ เธอพยายามหาต่อไปแต่ด้วยลมที่แรงมากๆ ทำให้ดินกระเด็นเข้าตาของเธอทั้งสองข้าง เธอใช้มือข้างหนึ่งปิดตาเอาไว้ในขณะที่มืออีกข้างก็กำลังเขี่ยดินไปเรื่อยๆ เธอพยายามที่จะหาที่คั่นหนังสือให้เจอ แต่จู่ๆ มือของเธอก็ไปสัมผัสกับอะไรบางอย่างเข้า มันคือแหวนวงเก่าๆ วงหนึ่ง
.
.
.

เธอนำแหวนกลับมาทำความสะอาดในบ้าน และคิดว่าจะเก็บแหวนวงนี้เอาไว้กับตัว เพราะแหวนวงนี้เธอพบมันอยู่ในบริเวณที่ปู่เสียชีวิต

เธอเช็ดและทำความสะอาดเป็นอย่างดี จึงได้พบว่าด้านในของแหวนมีตัวอักษรเขียนเอาไว้แต่อักษรนั้นเลือนรางจนไม่สามารถอ่านออกได้

“แล้วอักษรนั้นเขียนว่าอะไร”

เธอนั่งคิดและพยายามจะอ่านตัวอักษรที่มีในแหวน ต ง น ก น นี่คือตัวอักษรที่ปรากฏอยู่ในแหวนและยังมีตัวอื่นๆ ที่ขาดหายไป

“แพรพรุ่งนี้เช้าไปหาย่าไหมลูก ย่าเขาคิดถึงเรานะ”

ย่าของเธอย้ายไปอยู่บ้านเกิดของตนเอง หลังจากที่ปู่เสียชีวิตและไม่เคยกลับมาที่นี่อีกเลย สาเหตุคงเป็นเพราะไม่อยากมาเห็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำของปู่ หลังจากที่ย่ารู้ว่าปู่เสียชีวิต ย่าก็เก็บตัวและไม่ออกมาพูดคุยกับใครเป็นเวลาหลายเดือน เมื่อมีคนถามถึงปู่ ย่าก็จะเดินหนีไปโดยไม่ตอบคำถามอะไรเลย

“หรือว่าเราจะเอาเรื่องแหวนไปถามย่าดี”

เธอตัดสินใจที่จะนำแหวนไปด้วย เพราะถ้าแหวนวงนี้เกี่ยวกับปู่ของเธอจริงๆ แสดงว่าในคืนที่ปู่เสียชีวิตต้องมีเหตุการณ์อะไรเกี่ยวกับแหวนวงนี้แน่ๆ