One day with him (Coffeeverse)  : ถักฝัน

นิยายสั้นวาย ชาย-ชาย (YAOI)

ไปป์รู้สึกเหมือนกับยกก้อนความตื่นเต้นออกไปจากอกได้แล้ว เขายิ้มกว้างออกมาได้อย่างสบายใจเป็นครั้งแรกหลังจากที่เข้ามายังหอศิลป์แห่งนี้ ไปป์โค้งให้กับผู้ชมอีกครั้ง เสียงปรบมือดังสนั่นทำให้จิตใจของเขาฟูฟ่องขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เขาเดินออกจากห้องออดิทอเรียมด้วยสีหน้าที่ผ่อนคลายมากกว่าเดิม แต่เมื่อออกมาถึงข้างนอกเขาก็ต้องแปลกใจและใจเต้นรัวเร็วขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเขาพบว่าใครอีกคนยังนั่งอยู่หลังเวทีตรงที่ที่เขานั่งอยู่เมื่อสักครู่

ไปป์เดินไปหาอีกคนก่อนจะเม้มปากแน่น ไผ่ลุกขึ้นก่อนจะมองหน้าเขานิ่งๆ ไปป์ไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังรู้สึกและคิดอะไรอยู่

“Sarah ดีมากเลย ฉันชอบนะ” ไผ่พูดขึ้นพลางยื่นมือมาให้เขา “ไผ่ อายุสิบเจ็ดปี”

ไปป์มองมืออีกคนก่อนจะยื่นมือไปจับเพื่อไม่ให้เสียมารยาท

“ฉันไปป์ อายุสิบเจ็ดปีเหมือนกัน” เขาฉีกยิ้มก่อนทั้งคู่จะปล่อยมือกัน “ไผ่ ขอบคุณนายมากเลยนะ ฉันมาแข่งครั้งแรกน่ะ เลยตื่นเต้นหนักไปหน่อย” ไปป์เลือกที่จะพูดทำลายบรรยากาศแปลกๆ รอบตัวของพวกเขาก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ จากคนตรงหน้า

“ไม่ว่าจะแข่งกี่ครั้งก็ตื่นเต้นไม่แพ้กันหรอก แค่นายยังไม่รู้วิธีจัดการกับความรู้สึกของตัวเองก็แค่นั้น” ไผ่พูดพลางเดินนำออกไปด้านนอก “หลังจากจบตรงนี้จะมีเวลาอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนจะประกาศผลการแข่งขัน นายไปเดินเล่นเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม”

ไปป์มองตามหลังของอีกคน มันไม่ใช่ประโยคเชิญชวน แต่มันเป็นประโยคขอร้องกึ่งบังคับ ไผ่เป็นใครเขาก็ยังไม่รู้จักมาก อีกอย่างที่นี่ก็ต่างบ้านต่างเมืองของเขา เขาไม่อยากจะไปไกลคุณพ่อคุณแม่ที่นั่งรออยู่ในฮอลล์ “ฉันขอเข้าไปหาคุณพ่อคุณแม่ก่อนได้ไหม”

“เอาสิ” ไผ่พยักหน้าก่อนจะเอื้อมมาจับมือเขาเป็นครั้งที่สี่ของวัน

“นี่ นายจับมือฉันบ่อยเกินไปแล้วนะ มีอะไรหรือเปล่า” ไปป์ถามออกไป แต่คำตอบที่ได้รับกลับเป็นความเงียบพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่นของไผ่ที่ถูกส่งมาถึงเขา

“นายชอบดื่มกาแฟไหม” ไผ่ถามขึ้นระหว่างเดินกลับไปยังห้องออดิทอเรียม เขาหันไปมองอีกคนที่ทำหน้าตาครุ่นคิดอยู่สักครู่ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ “อะไรกัน นายไม่ดื่กาแฟหรอกเหรอ”

“ไม่ล่ะ ฉันไม่ชอบ กาแฟมันขมน่ะ นายไม่คิดอย่างงั้นเหรอ” เขาส่ายหน้า

ไม่เลย เขาไม่คิดว่ากาแฟมันขมอีกต่อไปตั้งแต่ได้มาเจอกับใครอีกคน อเมริกาโน่ที่ว่าขมกันนักหนา บัดนี้มันกลับหอมหวานขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด กลิ่นและรสชาติที่ติดปลายลิ้นในตอนนี้ทำเอาเขาแทบคลั่ง

คนคนนี้มีรสชาติแบบที่เขาชื่นชอบ…เป็นกาแฟรสขมที่มีกลิ่นหอมหวาน มันคือ ‘Americano Honey Lemon’

“ถ้างั้นนายดื่มอะไรล่ะ ชาเขียว?” เขาถามออกไปราวกับกำลังสำรวจความชอบของอีกคน

“สำหรับฉันก็ต้อง Strawberry Smoothie เท่านั้น” ไผ่นึกไว้ไม่มีผิด กลิ่นหอมอ่อนๆ ของอีกคนทำให้เขานึกถึงสมูทตี้เป็นอย่างแรกเลยจริงๆ “นายถามฉันทำไมเหรอ” อีกคนเอียงคอถามด้วยความสงสัย

ทั้งสองเดินมาถึงด้านในตัวห้องออดิทอเรียมที่ตอนนี้กำลังจัดแสดงของผู้เข้าแข่งกลุ่มสุดท้าย พวกเขาค่อยๆ เดินลัดเลาะที่นั่งจากฝั่งประตูไปยังอีกฝั่งด้วยความเงียบที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นการเสียสมาธิของผู้เข้าแข่งที่กำลังบรรเลงเพลงอยู่ ณ ขณะนั้น

“ฉันจะพานายไปหาร้านนั่ง โอเคไหม” จากเสียงคุยลดลงเหลือแค่เสียงกระซิบ เขาปล่อยมืออีกคนก่อนจะบอกว่าเขาจะรออยู่ตรงนี้ ไปป์พยักหน้าหงึกหงักก่อนจะเดินเข้าไปหาคุณพ่อคุณแม่ของตน เขาบอกพ่อกับแม่ว่าจะออกไปข้างนอกกับ ‘เพื่อนใหม่’ พลางชี้ให้ดูใครอีกคนที่ยืนยกมือไหว้อยู่ไม่ไกล ผู้ปกครองทั้งสองท่านก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด บอกกลับมาเพียงแค่พวกท่านจะรออยู่ในนี้

ทั้งสองเดินออกมาจากห้องออดิทอเรียม พวกเขาเดินผ่านสายตาของคนหลายๆ คน จนเด็กต่างจังหวัดอย่างไปป์ต้องก้มหน้าลงหลบสายตาพวกนั้น ไผ่เห็นดังนั้นจึงดึงแขนอีกคนให้เดินตามไวๆ

“ก้มหน้าไว้ อย่าเงยหน้าขึ้นมาล่ะ” ไผ่กระซิบบอกคนข้างกายเมื่อเขาเห็นกล้องจากสำนักข่าวหลายตัวที่เตรียมจะจับภาพของพวกเขา รีบดึงอีกคนให้ผ่านจากโถงตรงนี้ให้ไวที่สุด

เมื่อทั้งคู่ออกมาถึงข้างนอกหอศิลป์ ไปป์ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ไผ่ขยับยิ้มให้อีกคน แต่ก็กลับได้รับฝ่ามือฟาดเข้าแรงๆ ที่แขนของเขา

“นายมันดังอะไรกันนักหนานะ ไม่เหนื่อยบ้างรึไง” ไปป์พูดขึ้นมาก่อนจะถลึงตาใส่เมื่อเขาหัวเราะขึ้นมาเบาๆ