ไม่ช่วยเท่ากับฆ่า ตอนที่ 2 : กอหญ้า

นิยายสั้นแนวชีวิต ดราม่า (Drama)

วิมลไม่คิดว่าสิ่งที่เธอพูดได้เป็นการแทงใจดำนายเคร่งอย่างแรง เพราะความรู้สึกผิดเรื่องวันแม่ของวิมลได้ตกตะกอนอยู่ในก้นบึ้งหัวใจที่เจ็บช้ำของเขาอย่างที่สุด จนยาที่จะบรรยายออกมาได้ แต่ก็แกล้งทำเป็นกลบเกลื่อนเพื่อไม่ให้ลูกเห็นในความเศร้าหมองของเขา เพราะเวลานี้เขาอยากให้วิมลนึกถึงความสุขของตัวเอง ที่จะมีในภายภาคหน้าเสียที นั่นก็คือเรื่องของคู่ครอง

ในที่สุดวิมลก็ตัดสินใจเลือกเดชชายหนุ่มในหมู่บ้านเดียวกันที่ได้ไปร่ำเรียนมาจากในเมืองมีวิชาเลี้ยงชีพพอตัว และที่สำคัญไม่เจ้าชู้เป็นคนดีมีสัมมาคารวะ ทำให้เคร่งรู้สึกหายห่วงไปได้ในระดับหนึ่ง

เคร่งเห็นชีวิตของลูกสาวมีความสุขดีเพราะอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน เคร่งผ่านช่วงเวลานั้นมาก่อนจึงเข้าใจดี และได้ตัดสินใจบอกกับลูกสาวและลูกเขยว่าตนจะออกไปหาปลายังถิ่นไกลๆสักอาทิตย์สี่ห้าวัน เพราะลำพังปลาแถวนี้แทบจะไม่มีแล้ว แต่วิมลเป็นห่วงพ่อไม่อยากให้พ่อออกไปหาปลาไกลๆเพียงลำพัง

“ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อหรอกวิมลเอ๊ย อยู่ปรนนิบัติดูแลผัวเอ็งให้ดีอย่าได้ขาดตกบกพร่องก็พอ”

นายเคร่งสั่งเสียลูกก่อนลงเรือนไป ทันใดนั้นเดชลูกเขยก็เห็นนายเคร่งพ่อตาไม่มีเงาหัว แต่ก็ไม่กล้าทักและบอกเรื่องนี้กับวิมล เพราะกลัววิมลจะไม่สบายใจ ผ่านไปสองวันในขณะที่นายเคร่งกำลังนอนหลับอยู่ริมตลิ่งในอีกหมู่บ้านถัดไป ความจริงแล้วเขาพอมีเพื่อนฝูงที่รู้จักมักคุ้นอยู่บ้าง แต่ก็ไม่อยากไปรบกวนพวกเขา ในขณะนั้นเป็นเวลาดึกสงัดลมพัดเย็นยะเยือก เย็นเข้าไปถึงหัวใจแล้วจู่ๆเขาก็รู้สึกเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น แล้วคล้ายกับมีเงาผู้หญิงคนนึงมายืนจ้องมองเขาอยู่ เขาคิดว่าคงเจอดีเข้าแล้ว แต่จะลุกอย่างไรก็ลุกไม่ขึ้น มันเหมือนมีพลังบางอย่างสะกดเขาเอาไว้ เขาพยายามลืมตาขึ้นมองก็ต้องตกใจอย่างสุดชีวิต เพราะจำได้ดีว่าผู้หญิงคนนี้คือวันเมียเก่าที่เขาฆ่าตายกับมือนั่นเอง และผู้หญิงคนนั้นก็ได้ยื่นมือมาจับที่คอเขา หมายจะบีบให้แหลกคามือด้วยสายตาแห่งความแค้น แต่ก็พลันหยุดลงทันทีเมื่อมีชายหนุ่มคนนึงที่แต่งกายด้วยชุดสีขาวไว้หนวดไว้เครามาห้ามด้วยเสียงที่มีพลังแต่แฝงไว้ด้วยความมีเมตตา เขารู้สึกคุ้นกับชายหนุ่มคนนั้นอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็นึกไม่ออกว่าเป็นใครมาจากไหน จนกระทั่งผีร้ายนั้นได้มลายหายไปในบัดดล นายเคร่งได้ขอบคุณชายหนุ่มผู้นั้น ก่อนไปชายหนุ่มผู้นั้นได้สั่งความกับเขาว่า “ให้อยู่ให้ห่างจากน้ำเอาไว้” แล้วชายหนุ่มผู้นั้นก็หันหลังแล้วเดินจากไป เคร่งมั่นใจว่าขายหนุ่มผู้นี้เป็นคนไม่ใช่ผีสางอย่างแน่นอน

รุ่งเช้าเขาจึงเดินทางกลับบ้านทันที และทันที่ที่วิมลเห็นผู้เป็นพ่อกลับบ้านมาก่อนกำหนดด้วยท่าทีที่อิดโรยไม่สู้ดี แถมยังไม่ได้ปลาสักตัวก็รู้ทันทีว่าผู้เป็นพ่อคงไม่สบายหรือได้รับอันตรายกลับมา จึงรีบเข้าไปต้อนรับและตระเตรียมปูที่พักหาหยูกหายามารักษา จนเวลาผ่านไปอาการของผู้เป็นพ่อก็ดีขึ้นและหายเป็นปกติในเวลาไม่นาน เมื่อวิมลถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นผู้เป็นพ่อก็ไม่ยอมเล่าให้ฟังเพราะไม่อยากให้ลูกต้องมารับรู้ความชั่วของเขาที่มีต่อแม่ของแกในอดีต จึงได้แต่บอกไปว่าเขาคงทำอาชีพออกเรือหาปลาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว วิมลก็ได้แต่บอกผู้เป็นพ่อไปว่า ถึงแม้ว่าพ่อของเธอจะไม่ได้ออกเรือไปหาปลาเหมือนอย่างเช่นเคย แต่เวลานี้เรามีพี่เดชที่จะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัวดูแลทุกคนในบ้านให้อยู่สุขสบายได้จ่ะ