แม่ครับผมชอบวิศวะ : ไอนที

นิยายสั้นวาย ชาย-ชาย (YAOI)

16.30 น.

ผมเรียนเสร็จ แม่ก็มารอรับผมที่หน้าโรงเรียนตามเคย

“สวัสดีครับแม่” ผมมาถึงแม่ ผมก็กล่าวทักทาย

“จ้ะ เรียนเหนื่อยมั้ยวันนี้” แม่ถามผมพร้อมกับยื่นแก้วน้ำให้

“อ่ะนี่  แม่ซื้อชาเขียวที่เราชอบมาฝาก” แม่ผมน่ารักจริงๆ

ระหว่างนั่งรถกลับบ้าน ผมก็คิดจะยกเรื่องเรียนต่อมาคุยกับแม่อีกครั้ง แต่ผมยังไม่ทันได้เอ่ยปากขอ แม่ก็พูดขึ้นมาซะก่อน

“เอ้อข้าวปั้น แม่ติดต่อพี่วิศวะไว้คนนึง ชื่อพี่คชา เป็นลูกชายของเพื่อนแม่เอง แม่ไปขอให้มาช่วยติวให้ลูกด้วยนะ”

“ห้ะ แม่ติดต่อพี่เขาไปแล้วหรอครับ ผมว่าจะบอกแม่อยู่เลยว่าผมอยากเรียนครูคณิต”

“วิศวะก็เท่ดีนะลูก ได้ใส่ช็อปด้วย” แม่ผมยังไม่ละความพยายาม

“แต่ผมชอบครูคณิตมากกว่านิครับ” ผมก็ยังไม่ละความพยายามเหมือนกัน

“เอางี้ ไหนๆ แม่ก็ติดต่อพี่คชามาแล้ว เราก็เรียนกับพี่เขาให้แม่สักอาทิตย์นึงดูก่อนก็ได้ ยังไงซะแม่ก็ได้ติดต่อไว้แล้ว ถือว่าไว้หน้าแม่นะ”

“อาทิตย์เดียวนะครับ”  ผมถามให้แม่ตอบให้ชัดเจนอีกรอบ

“จ้ะ อาทิตย์เดียว ถ้าเราไม่ชอบจริงๆ แม่ก็จะไม่บังคับแล้ว”

“ได้ครับ แล้วพี่เขาจะมาติวที่ไหนหรอครับ”

“แม่นัดพี่เขามาติวที่บ้านเราจ่ะ ติวตอน 17.00-19.00 น. จะเริ่มติวพรุ่งนี้เลยนะ” นี่แม่ผมจัดการวาง

แผนทุกอย่างไว้เรียบร้อยเลยสินะ แม่นะแม่

“ก็ได้ครับ”
.
.
.

17.00 น.

วันต่อมา…

ตื๊อดึ่ง ตื๊อดึ่ง

เสียงออดหน้าบ้านของผมดังขึ้น ขณะที่ผมกำลังจะเปลี่ยนชุดนักเรียนออก

“ข้าวปั้น ไปเปิดประตูบ้านให้พี่คชาหน่อยลูก” แม่ผมที่กำลังเตรียมอาหารว่างไว้ให้ผมตอนติว ร้องบอกผมให้ไปเปิดประตู

“ครับบบบ”

ผมตอบรับแม่แล้วผมก็ไปเปิดประตูบ้าน แล้ว Honda CIVIC สีดำก็ขับเข้ามาจอดข้างในบ้านของผม และแล้วประตูรถก็ถูกเปิดออก แล้วหนุ่มร่างสูง ใส่กางเกงยีนรองเท้าผ้าใบสีขาว พร้อมกับใส่เสื้อช็อปก็ก้าวขาลงมาจากรถ พี่เขาเท่มากจริงๆ ผิวขาว หน้าก็ใสอีกนี่แม่จะหาพี่ติวหรือหาผัวให้ผมเนี่ย ทำไมพี่เขาถึงได้หล่อแบบนี้นะ

“คชา มาแล้วหรอจ้ะ มาๆ เข้ามานั่งก่อน อ่ะข้าวปั้นพาพี่คชาเข้ามาในบ้านก่อนสิลูก” แม่ของผมที่มือถือจานขนมอยู่เดินมาบอก

“พี่คชาสวัสดีครับ ผมข้าวปั้นนะครับ เชิญพี่คชาในบ้านก่อนเลยครับ” ผมพูดกับพี่เขาด้วยท่าทีเขินอาย ก็พี่เขาทั้งหล่อ ทั้งดูดีขนาดนี้ ใส่ช็อปแล้วยิ่งเท่เข้าไปอีก

ครับ” พี่คชาตอบกลับผมด้วยรอยยิ้ม

เราเข้ามาในบ้านนั่งคุยกันไปได้สักพัก ก็ดูเหมือนว่าบรรยากาศของความเป็นกันเองก็เริ่มมาเรื่อยๆ ผมไม่รู้สึกเกร็งเหมือนตอนแรกแล้ว

“เด็กๆ ติวกันเลยนะจ้ะ เดี๋ยวแม่ลงไปทำกับข้าวรอพ่อก่อน” แม่บอกผมกับพี่คชาก่อนที่แม่จะลงไปเข้าครัว เราติวกันที่ห้องนอนครับ เพราะในห้องนอนผมมีโต๊ะหนังสือตัวใหญ่ มันหนักก็เลยไม่สะดวกแบกลงมาข้างล่าง เราก็เลยติวกันในห้องนอนเลย แล้วพี่คชาก็เริ่มติวให้ผม

พี่คชาติวให้ผมได้เข้าใจมากๆ พี่เขาพูดสั้นๆ แต่มันเข้าใจง่ายมากๆ แล้วพี่คชาก็มาติวให้ผมทุกวันจนเวลาผ่านไป