“วีระใจเย็น ๆก่อนนะ”
ไม่มีเวลาให้เสียใจกับความเชื่อใจที่เขามีให้วีระ ตอนนี้จิราวุฒิแทบจะขยับตัวไม่ได้ ศิลปะการป้องกันตัวที่เขาเรียนมาใช้ไม่ได้ในเวลานี้ เส้นเอ็นที่วีระใช้รัดคอของเขาอยู่เล็กเกินไป ถ้าขยับมากมันจะอันตรายกับตัวเขาเอง เขาต้องทำให้วีระใจเย็นไว้ก่อน
“ใจเย็นหรอ ไม่เอาน่าพี่รู้ดีว่าผมใจเย็นที่สุดแล้ว กว่าจะสนิทกับพี่ได้ขนาดนี้ ผมใช้เวลาสิบปีเลยนะ”
“ฉันรักนายเหมือนน้องนะวีระ มีอะไรเราค่อย ๆคุยกันดีกว่า”
จิราวุฒิค่อย ๆยกมือขึ้นมา ยื่นไปด้านหลังแล้วจับมือของวีระที่พันสายเอ็นไว้เบา ๆ
หึ
วีระยิ่มอย่างรู้ทัน
“อ่า ถ้าพี่รักผมเหมือนน้องจริง พี่ก็ต้องยอมมีจุดจบเหมือนพี่ผมนะ พี่วุฒิก็รักผมมากเหมือนกัน ยอมให้ผมทำสิ่งที่จะทำให้ผมมีความสุขสิ พี่ไม่สงสารผมหรอ ผมเป็นเหยื่อนะ”
.
.
.
ที่โรงพัก
“บ้าเอ้ย สารวัตร สารวัตร!”
ณดลสบถออกมาอย่างหงุดหงิด ดูเหมือนว่าสารวัตรจะรู้แล้วว่าใครคือคนร้ายแต่ไม่ได้บอกคนในทีม แล้วยังผู้หญิงที่เป็นคนรับใช้คนนั้นอีก เธอไม่มีรูปภาพ แล้วก็ไม่รู้ชื่อของมันด้วย แต่ตอนนี้คนในทีมกำลังสเก็ตภาพไอ้หมอนั่นอยู่ อีกเดี๋ยวคงเรียบร้อย
ตืด~ตืด~
ความสั่นไหวของโทรศัพท์ที่อยู่ในมือณดลทำให้เขารีบยกขึ้นมาดูทันที ตอนแรกคิดว่าจะเป็นสารวัตร แต่กลับเป็น ป้าวารี แม่ของเหยื่อฆาตกรรมรายที่สี่
“ครับป้า มีอะไรครับ ถ้าไม่สำคัญไว้คุยวันหลังนะครับ ตอนนี้พวกผมยุ่งมาก”
“หมวดคะ ป้าว่าสารวัตรกำลังตกอยู่ในอันตรายค่ะ”
“หมายความว่ายังไงครับ ป้ารู้หรอครับว่าตอนนี้สารวัตรอยู่ไหน”
พอวารีพูดถึงสารวัตร ซึ่งก็แน่นอนว่าสารวัตรที่ป้าหมายถึงต้องเป็นสารวัตรจิราวุฒิแน่นอน
“ค่ะ สารวัตรอยู่ที่บ้านป้าเองค่ะ”
“แล้วอยู่บ้านป้ามันจะอันตรายยังไง”
“คือ…ป้าคิดว่าวีระฆ่าเสี่ยใหญ่ แล้วก็น่า..น่าจะ..ฆ่าวุฒิด้วย”
เสียงของวารีเริ่มสั่นเครือ เมื่อวานเธอแทบจะลืมหายใจตอนที่รู้ว่าอยู่กับฆาตรกรโลกจิตมาตั้งสิบห้าปี เธอรับอุปการะวีระมาตั้งแต่เขาต้องออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และเธอคิดว่าเขาเป็นเด็กดีมาตลอด ตั้งแต่วุฒิตาย วีระทำตัวแปลก ๆเขาเหมือนจะเป็นคนดีคนเดิมของเธอ แต่เธอรู้สึกได้ว่าเขาดูไม่ปลอดภัย และห้องนอนที่เขาขอร้องไม่ให้เธอเข้าไปยุ่งก็เหมือนกัน เมื่อวานเธอแอบเข้าไปในห้องนอนของวีระ ห้องที่เขาไม่ยอมให้เธอเข้าไปเพราะอยากได้ความเป็นส่วนตัว มันเหมือนจะไม่มีอะไร เธอคิดว่าเธอคงคิดมากไปเอง แต่บนโต๊ะเขียนหนังสือของเขามีกล่องสีฟ้าที่เหมือนกล่องใส่พวกอุปกรณ์การเรียนใบหนึ่งที่มันปิดไม่สนิท และเธอก็แค่จะปิดมันให้เรียบร้อยเท่านั้น ทว่าความอยากรู้อยากเห็นทำให้เธอตัดสินใจเปิดมันออก แต่พอเธอเปิดมันออกมาจริง ๆ เธอก็แทบจะทำกล่องนั่นร่วงลงกับพื้น ข้างในนั้นมีของแปลก ๆที่น่าสยดสยอง กล่องถูกแบ่งเป็นสองฝั่ง ฝั่งนึงดูเหมือนจะเอาไว้เก็บม้วนเส้นเอ็นที่มีช่องใส่แยกแต่ละเส้นตามขนาดของมัน และมีหนึ่งช่องในนั้นที่ว่างเปล่า ส่วนอีกฝั่งเป็นส่วนของร่างกายมนุษย์ มีทั้งเส้นผม กระดูก และแผ่นหนัง แผ่นหนังที่ถูกตรึงติดไว้กับส่วนของฝากล่องดูเหมือนจะทำให้เธอนิ่งค้างได้นานที่สุด เธอไม่รู้ว่ามันคือหนังของอะไร แต่บนแผ่นหนังแผ่นนั้นมีรอยสักดาวแปดแฉก และมีรอยขีดแต่ละแฉกตั้งแต่หนึ่งถึงแปดขีด มันเป็นรอยสักของวุฒิ ลูกชายของเธอที่ถูกฆาตกรรมเมื่อสิบปีก่อน
วารีตั้งสติแล้ววางกล่องนั้นลงที่เดิม เธอออกไปจากห้อง ๆนั้นทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พรุ่งนี้เธอจะออกไปจากที่นี่ เธอกลัวเกินกว่าจะอยู่ร่วมกับคนโรคจิตแบบวีระ การปั้นหน้าทำตัวปรกติผ่านไปอย่างยากลำบาก และเธอยังได้ยินวีระชวนสารวัตรมากินข้าวอีก มันไม่ปลอดภัยกับเขาแน่ แต่เธอบอกตอนที่ยังอยู่ที่นี่ไม่ได้ เธอโทรหาสารวัตรตอนที่ไปถึงวัด แต่เขาไม่รับ รอจนคิดว่าเขาเลิกงานแล้วโทรไปอีกก็ยังไม่รับ เธอเลยตัดสินใจโทรหาผู้หมวดแทน หวังว่ามันจะยังทัน
“สารวัตรครับ ภาพสเก็ตของคนร้ายตามที่สาวใช้บอกออกมาแล้วครับ…ดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่พวกเราคุ้นเคยดีซะด้วย”