เหยื่อ : NTPS P.

Exclusive นิยายสั้นแนวสืบสวน สอบสวน (Suspense/ Mystery/ Crime)

ในเวลาสองทุ่มของกลางเดือนมิถุนายนที่มีฝนตกปรอย ๆ อาจจะเป็นเวลาพักผ่อนของใครหลาย ๆคน  แต่ไม่ใช่กับจิราวุฒิที่กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานประจำตัว  เขากำลังดูแฟ้มคดี เกี่ยวกับการฆาตกรรมต่อเนื่องที่เขารับผิดชอบมากว่าสิบปี  แต่เช้าวันนี้เพิ่งมีความคืบหน้าใหม่ เกี่ยวกับคดีเกิดขึ้น เพราะดูเหมือนว่าผู้ต้องสงสัยที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของคดี  จะชิงฆ่าตัวตายไปเสียแล้ว

เสี่ยใหญ่  เป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าคนไปกว่าสี่คนในเวลาหนึ่งเดือน มันเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน ของเมื่อสิบปีก่อน  และคนสุดท้ายที่ถูกฆาตกรของคดีนี้ฆ่าก็คือ วุฒิ  คนคนนี้ถูกฆาตกรรมโหดเหี้ยมกว่าคนอื่น ๆ  เหมือนกับเป็นการบอกลาจากฆาตรกรว่ามันจะไม่ฆ่าใครอีกแล้ว

คดีนี้มีเสี่ยใหญ่คนเดียวที่ยังคงเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่  ส่วนผู้ต้องสงสัยคนอื่น ๆ บ้างก็ตายแล้ว  บ้างก็มีหลักฐานที่บอกว่าพวกเขาไม่ใช่ฆาตกร  ถ้าเป็นแบบนี้คดีนี้อาจจะเป็นอีกหนึ่งคดีที่ไม่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าใครคือคนร้าย

ตืด~~ตืด~~

เสียงสั่นจากโทรศัพท์ที่วางไว้บนกองกระดาษทำให้จิราวุฒิละออกจากภวังความคิดของตัวเอง  เขามองไปที่รายชื่อของคนที่โทรเข้ามา 

‘วีระ’ 

ทำไมอยู่ดี ๆวีระ ที่เป็นน้องชายของวุฒิ เหยื่อคนสุดท้ายของคดีถึงโทรหาเขากันนะ  แต่เขาก็ไม่ได้สงสัยอะไรไปมากกว่านั้น  เพราะช่วงสิบปีมานี้ เขาค่อนข้างสนิทกับครอบครัวของวีระพอสมควร  อาจจะโทรมาชวนกินข้าวเหมือนทุกครั้งก็ได้  แต่ชวนกินข้าวตอนสองทุ่มนี่ ก็ไม่ค่อยปรกติเท่าไหร่  จิราวุฒิคิดไปพลาง ๆขณะที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อรับสาย

“อืม ว่าไงวี”

“พี่เจมส์  พรุ่งนี้พี่ว่างไหม”

“พรุ่งนี้หรอ เหมือนจะไม่ว่างนะทำไมหรอ”

จิราวุฒิตอบไปแบบแทบไม่ต้องคิด เสี่ยใหญ่เพิ่งตาย  เขาต้องรีบเคลียร์คดีนี้ ซึ่งมันคงกินเวลาไปอีกเป็นสัปดาห์เลยทีเดียว

“อ่าว หรอครับ ผมว่าจะชวนพี่มากินข้าวหนะ ไหน ๆไอ้เสี่ยใหญ่มันก็ถูกกรรมตามทันซะที”

หืม  กรรมตามทันอย่างงั้นหรอ  คงไม่ใช่ว่าวีระรู้เรื่องที่เสี่ยใหญ่ฆ่าตัวตายแล้วหรอกนะ

“อืม ถ้างั้นก็ได้  พรุ่งนี้พี่จะเข้าไปหา อาจจะค่ำหน่อยนะ จะให้ซื้ออะไรเข้าไปด้วยไหม”

จิราวุฒิรีบเปลี่ยนคำตอบทันทีที่รู้จุดประสงค์ของวีระ  เรื่องเป็นแบบนี้ ยังไงก็คงต้องไปให้ได้

“ซื้อแต่ของที่พี่ชอบเข้ามาก็พอครับ  แค่นี้ก่อนนะครับพี่  แม่ผมเรียกแล้ว”

ไม่รอให้จิราวุฒิตอบกลับ วีระก็ชิงวางสายไปก่อน

‘ซื้อแต่ของที่พี่ชอบงั้นหรอ’ จิราวุฒิคิดแล้วก็ได้แต่ขำอยู่ในใจ  ระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมา  เราอยู่ใกล้กันมาตลอดเลยสินะ

.

.

.

ตืด~~ตืด~~

ความไม่สบายตัวจากการนอนบนเก้าอี้ และเสียงสั่นของโทรศัพท์ที่ดังขึ้นในเวลาเก้าโมงเช้าทำให้จิราวุฒิต้องลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก  เขาคว้ามือไปทั่วโต๊ะรก ๆของตัวเองทั้งที่ยังดึงสติมาได้ไม่เต็มที่

พอคว้าโทรศัพท์ได้เขาก็รีบกดรับทันที

“ครับ สารวัตรจิราวุฒิรับสายครับ”

“สวัสดีค่ะสารวัตรจิราวุฒิ ฉันไพลิน โทรจากศูนย์นิติวิทยาศาสตร์ ไม่ทราบว่าคุณใช่คนที่ดูแลเรื่องคดีของเสี่ยใหญ่อยู่รึเปล่าคะ”

เสียงผู้หญิงที่ฟังดูแข็งกระด้างดังออกมาจากโทรศัพท์  พวกนิตินี่เอง พอเป็นคดีของคนใหญ่คนโตนี่ทำงานเร็วกันจังเลยนะ จิราวุฒิค่อนขอดอยู่ในใจ  แต่สุดท้ายก็ตอบกลับไปด้วยเสียงสุภาพอยู่ดี

“ครับ ผมเอง มีอะไรคืบหน้ารึเปล่าครับ”

“ค่ะ ฉันจะโทรมาแจ้งว่าจากการชันสูตรศพ เบื้องต้น เสี่ยใหญ่น่าจะไม่ได้ฆ่าตัวตายนะคะ เพราะว่ารอยลึกของเอ็นที่คอของเสี่ยใหญ่ด้านหลังลึกกว่าด้านหน้า  แสดงว่าต้องมีการรัดคอจากด้านหน้า  แต่ภาพเสี่ยใหญ่ตอนที่เราพบ เค้าแขวนคอตัวเองไว้กับหน้าต่างซึ่งนั่นมันเป็นการรัดจากด้านหลัง  เพราะฉะนั้นการที่เสี่ยใหญ่แขวนคอก่อนที่จะมีคนไปพบ อาจจะเป็นการจัดฉากนะคะ แค่นี้แหละค่ะ ที่ฉันจะมาบอก”

หึ  เขาว่าแล้วเชียว

“ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ มีอะไรคืบหน้าโทรมาหาผมอีกได้นะครับ”

“ค่ะ”