My Fate โชคชะตาฉันจะกำหนดมันเอง : KANI

นิยายสั้นแนวชีวิต ดราม่า (Drama)

โดย : KANI
ลิขสิทธิ์ : Magic Time Media & เติมฝัน (termfun.com)

ท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มกับแสงไฟหลากสีในผับชื่อดังแห่งนี้ ฉันมองดูผู้คนที่เต้นเริงร่ากันอย่างมีความสุขสนุกสนาน พวกเขาเมามายแต่ยังเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ บนชีวิตที่มีเวลาได้ปลดปล่อยและพักผ่อนหย่อนใจนี้ ฉันไม่เคยได้สัมผัสมันเลยมานานมากแล้ว

ฉันชื่อพลอยน้ำผึ้งเป็นสาวเสิร์ฟอยู่ในที่แห่งนี้  ฉันต้องทำงานหนักเพื่อไปใช้หนี้ก้อนโตจากการเสียพนันของแม่ ส่วนพ่อของฉันท่านได้จากฉันไปแล้วด้วยโรคตับแข็งจากการกินเหล้าเยอะตั้งแต่ฉันยังเด็ก ฉันไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัยต่อเหมือนคนอื่น ฉันต้องมาทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำ นี่เป็นเวลาเที่ยงคืนเข้าแล้วฉันเหนื่อยล้าจนแทบอยากจะหลับตาล้มลงนอนอยู่ตรงนี้เลยให้ได้ พรุ่งนี้ฉันต้องรีบตื่นเช้าขึ้นมาเพื่อมาขายน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ต่อ ก่อนที่ฉันจะถูกอะไรสักอย่างชนเข้าอย่างจัง

“โอ้ย แกมองไม่เห็นคนรึยังไง” สาวนุ่งสั้นเอวบางต่อว่าฉันก่อน ดูเหมือนเธอจะเมาอยู่นะ และฉันก็ไม่ได้เป็นคนเดินชนเธอด้วย

“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษจริงๆค่ะ” ฉันต้องขอโทษเธอทั้งๆ ที่ไม่ได้อยากทำแม้แต่น้อย ฉันก้มหน้าแอบกัดฟันตัวเองแน่น

“รองเท้าฉันเลอะเหล้าหมดเลย แกรู้ไหมว่ารองเท้าคู่นี้มันราคาเท่าไหร่”

“ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้จริงๆค่ะ” ฉันขอโทษขอโพยเธอไปอีกรอบ

“รองเท้าคู้นี้มันมีค่ามากกว่าเงินเดือนของแกตั้งหลายเดือนซะอีกนะ ก้มลงไปเช็ดให้ฉันเดี๋ยวนี้”

“นี่แก หยุดเถอะมันไม่ได้เป็นไรมากซักหน่อย แถมเขาก็ขอโทษแล้วด้วย” เพื่อนสาวของเธอห้ามปราม พร้อมพยายามจะพาเธอออกไปจากตรงนี้

“ฉันไม่หยุด ! แกจะไปสนใจทำไม มันก็แค่เด็กเสิร์ฟกระจอกๆ คนหนึ่งเท่านั้นเอง!”

“มีอะไรกันครับ ผมเป็นผู้จัดการของที่นี่เองครับ” ผู้จัดการผับแห่งนี้แทรกขึ้นมา

“ก็เด็กเสิร์ฟของคุณน่ะสิ เดินชนฉันแถมยังทำรองเท้าราคาแพงของฉันเลอะเทอะอีกด้วย คุณจะจัดการยังไงล่ะ” เธอยังพูดจะเอาเรื่องฉันต่อ ฉันนี่มันซวยซะจริง

“คุณผู้หญิงต้องการให้เธอทำอย่างไรครับ” ผู้จัดการถามเธอเพื่อที่อยากจะหยุดเหตุการณ์นี้

“ให้ยัยนี่ขอโทษและคุกเข่าลงไปเช็ดรองเท้าของฉันเดี๋ยวนี้”

“ทำตามที่คุณเขาบอกสิพลอยน้ำผึ้ง” ผู้จัดการรีบหันมาบอกฉัน

ในที่สุดฉันก็ต้องทำตามที่เธอคนนั้นบอก ฉันค่อยๆ คุกเข่าลงแล้วค่อยๆ เอาผ้าเช็ดที่รองเท้าของเธอคนนั้น พร้อมพูดขอโทษเธอ

“ขอโทษค่ะ” ฉันพูดพร้อมกับก้มหน้าทำเป็นเช็ดรองเท้า เพื่อเก็บอาการโกรธและโมโหอย่างหนักของฉันเอาไว้

เธอไม่ตอบแล้วสะบัดเท้าออกแล้วเดินหนีฉันไป น้ำตาฉันไหลออกมาด้วยความโกรธแล้วทำอะไรไม่ได้ ฉันถูกย่ำยีศักดิ์ศรีจนฉันรู้สึกสมเพชตัวเอง ชีวิตทั้งชีวิตของฉันไม่มีเรื่องอะไรดีเลยสักอย่างเลยจริงๆ ฉันสะบัดหัวไล่ความคิดต่างๆ ออกแล้วถอนหายใจออกเฮือกใหญ่ก่อนจะ ไปเปลี่ยนชุดเพื่อที่จะรีบกลับบ้าน
.
.
.

01:30 น.

ฉันขับรถมอเตอร์ไซค์สกู๊ปปี้ลูกรักกลับบ้าน แสงไฟบนถนนตอนช่วงเกือบจะตี2 กับลมที่พัดมาสัมผัสหน้าทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาได้นิดหน่อย ฉันบอกกับตัวเองให้ปล่อยวางและพยายามใช้ชีวิตให้มีความสุขกับเรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างนี้ให้มากกว่าทุกวันที่ผ่านๆ มา