โดย : พุดดง
ลิขสิทธิ์ : Magic Time Media & เติมฝัน (termfun.com)
แอ๊ดดด
เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงในชุดออกกำลังกายก้าวเข้ามาในคอนโดหรูขนาดใหญ่ที่มีห้องย่อยถึงสี่ห้อง ร่างสูงถอดรองงเท้าเข้าตู้อย่างสะเปะสะปะด้วยอารมณ์ที่รีบร้อนของเจ้าตัวขายาวก้าวฉับๆ แต่พยายามไม่ทำให้เกิดเสียงดังเพราะกลัวเพื่อนในคอนโดจะตื่นมาโวยวายจนสุดท้ายไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันพอดี ร่างสูงมุ่งตรงไปที่ห้องซ้ายมือก่อนที่จะเดินเข้ามาในห้องด้วยความรีบเร่งและใช้เท้าดันประตูให้ปิดลง
แล้วมันใช่ความผิดของผมซะที่ไหนวะ!
คิดไปได้ไม่เท่าไหร่ ร่างของคนขายาวก็ก้าวมาถึงในห้องเจ้าตัวปัญหาที่แท้จริง
…ห้องของบัว
ตึกตัก ตึกตัก
มือที่ถือแผงยาแก้ไข้ที่ซื้อมากำเข้าหากันแก่น ก่อนจะค่อยๆ ยกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดเม็ดเหงื่อที่เกาะอยู่ตามใบหน้า
ไม่อยากให้อีกคนรู้ว่าเขารีบขนาดไหน
ร่างใหญ่ค่อยๆก้ าวเข้ามาใกล้ๆ เตียงของคนตัวเล็ก เพราะกลัวว่าคนที่นอนซมจากพิษไข้จะตื่น
“เชี่ย!” บอสบถทันทีที่รู้สึกถึงอุณหภูมิจากเครื่องปรับอากาศที่เขาเองเป็นคนขี้ร้อนยังรู้สึกได้ถึงความหนาว ร่างกัดกรามแน่นรีบก้าวยาวๆ ไปหยิบรีโมทมาปรับอุณหภูมิให้เย็นพอดีกับคนป่วยที่ยังนอนซมอยู่
บัวก็ยังเป็นคงเป็นบัว ชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย
บอสก้าวเข้ามาข้างเตียงของคนตัวเล็กบนเตียงที่ครั้งหนึ่งเคยอวดนักหนาว่าแข็งแรงเพราะเข้าฟิตเนสกับเขาเป็นประจำ แต่ตอนนี้กลับเป็นไข้ได้ง่ายๆ เพราะไปเล่นบาสด้วยกัน
“บัว…” เขาก้มลงกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูของอีกฝ่าย มืออีกข้างก้มลงไปกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูของอีกคน มืออีกข้างก็ว่าแผงยาที่ตัวเองซื้อมาลงตรงโต๊ะหัวเตียง
แต่บัวยังไม่ยอมตื่น
“ไอ้ลูกหมาบัวเอ้ย…” จากในตอนแรกที่บอสกระซิบอยู่ข้างใบหูเล็กของบัวกลับพูดเสียงดังขึ้น มือใหญ่ยื่นมาจับเข้าที่ไหล่ของคนตัวเล็กที่นอนซมแล้วเขย่าเบาๆ
บัวที่ใส่ชุดนอนลายบล็อกโคลลี่ตัวโปรดก็ยังไม่ยอมตื่นเอาแต่นอนงัวเงีย ลมหายใจร้อนๆ ผ่อนเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ เหงื่อเม็ดเล็กไหลซึมอยู่ทั่วใบหน้าจนถึงลำคอขาว ร่างเล็กนอนขดตัวกลมเพราะความเย็นจากอุณหภูมิห้องอีกทั้งพิษไข้ที่กำลังทำให้คนตัวเล็กสั่นเป็นลูกนก ผิวกายที่ซีดเซียวเป็นทุนเดิมจากที่เจ้าตัวเป็นคนผิวขาวอยู่แล้วกับปากเล็กสั่นๆ นั้น มันทำให้เขาหงุดหงิดโดยไม่รู้ตัว
มือหนาค่อยๆ แตะลงบนหน้าเปียกชื้นของคนป่วย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแน่นเมื่อรับรู้ถึงไอความร้อนจากคนตรงหน้าที่แผ่ออกมาโดนหลังมือของเขา
บัวต้องกินยา…
และบอสก็มีวิธีที่จะจัดการกับลูกหมาบาดเจ็บตรงหน้าซะด้วยสิ
“บัว.. บัวตื่น…”
“อื้อออ….”
“บัว.. ตื่นได้แล้ว..”
คนตัวสูงโน้มลงไปกระซิบข้างๆหูของคนป่วย ก่อนจะค่อยๆ ไล่สันจมูกรั้นๆ นั้น เกลี่ยไปมาที่พวงแก้มนิ่ม เป่าลมหวยใจร้อนๆ ใส่คนตัวเล็กจนคนที่นอนหลับอยู่ค่อยๆ รู้สึกตัวจากการถกรบกวนพร้อมกับปรือตาขึ้นมา
บัวเห็นใบหน้าพร่าเลือนของ เพื่อนสนิท อยู่บนเตียงเขา
“ฮื้อ… บอส อย่าแกล้งนะ.. เรา.. เรา.. ปวดหัว.. ฮื้ออ..” มือเรียวเล็กยกขึ้นมาดันใบหน้าของคนขี้แกล้งออก แต่อีกคนกลับไม่ให้ความร่วมมือมิหนำซ้ำยังกุมมือของเขาไว้แน่นและรวบขึ้นบนศีรษะ
(ตึกตัก ตึกตัก)
“บัว.. กินยา นายกำลังป่วยนะ”
“อื้อออ.. ”
“ถ้านายดื้อ ฉันสาบานต่อมะพร้าวทะเลทรายบนหัวเตียงนายเลยว่าฉันจะจับยานั่นกรอกปากนาย!”
“!!!”
คนตัวสูงกระซิบขู่ก่อนจะประคองคนป่วยให้ลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงดีๆ มืออีกข้างคว้าไปจับเจ้าตุ๊กตาหวีกล้วยที่อีกคนใช้หนุนนอนมารองหลังคนตัวเล็ก ก่อนที่ร่างสูงจะก้าวออกจากห้องไปเอาของมาให้อีก
บัวสะลึมสะลือมองตามร่างสูงของบอสที่ดูเหมือนจะไปเตรียมน้ำดื่มมาให้เขา ก่อนที่คนตัวเล็กกว่าจะหันไปให้ความสนใจไปที่ยาแก้ไข้ที่วางอยู่ข้างเตียง
ไหนพี่กายบอกว่ายาลดไข้หมดแล้วไม่ใช่หรอ?
“ขมวดคิ้วเข้าไป คิ้วจะผูกโบว์แล้วเนี้ย”
“…”
“ขมวดคิ้วเข้าไปเดี๋ยวก็ปวดหัวหรอก”
สงสัยได้ไม่นาน บอสก็ถือแก้วน้ำที่มีหลอดเสียบอยู่มาวางที่ข้างหัวเตียง ก่อนที่คนตัวสูงจะหยิบยาขึ้นมาอ่านแล้วแกะใส่ฝ่ามือที่ละเม็ด
“บอส นายไปเอายาพวกนั้นมาจากไหนอะ ทำไมตอนนั้นพี่กายบอกฉันว่ายาแก้ไข้ในตู้หมดแล้วล่ะ” เสียงแหบแห้งของคนป่วยดังขึ้น ให้บอสที่กำลังแกะยาอยู่ถึงกับชะงัก
จะให้บัวรู้เรื่องนั้นไม่ได้
ร่างหนาค่อยๆหันหน้าไปสบตากับอีกคนที่นอนพิงอยู่บนเตียง คิ้วเล็กๆขมวดพันกันยุ่งพร้อมมองกลับมาอย่างรอคำตอบ
(ตึกตัก ตึกตัก)
อา…วันนี้หัวใจมันจะเต้นอะไรเยอะแยะวะ
“พี่กายมันเป็นห่วง มันเลยฝากพี่กันต์ซื้อยามาให้”
เอาวะ แอบอ้างพี่กันต์นี่แหละ
บอสเห็นคนตัวเล็กก้มหน้าพร้อมกับเม้มปากเบาๆ เหมือนผิดหวังอะไรบางอย่าง ก่อนจะพยักหน้าหงึกๆ ให้เป็นเชิงว่าเข้าใจ ร่างสูงจึงเริ่มจัดการให้บัวกินยา ถึงเจ้าตัวจะทำหน้าขมขื่นพะอืดพะอมที่ต้องกินมัน แต่พอเขาเริ่มใช้สายตาขู่ คนตัวเล็กกว่าจึงยอมกลืนยาขมๆ ลงคอก่อนจะเม้มหลอดดูดน้ำตามไปอึกใหญ่ ตาเรียวเล็กมีหยดน้ำตาคลอช้อนขึ้นมามองค้อนใส่เขา
เจอลูกหมางอแงเข้าให้แล้ว…
“อะไร มันไม่แย่เท่าตอนกินแครอทหรอกใช่มั้ยล่ะ? ”
บอสขำเล็กๆ ที่เห็นบัวทำปากยื่นตอนเขาพูดถึงแครอท
บัวไม่ชอบกินแครอทแค่ไหน…เรื่องนั้นเขารู้ดี
“นอนได้แล้วบัว”
พูดจบบอสก็ค่อยๆประคองบัวให้นอนราบไปกับเตียง โดยมีสายตาตื่นๆของคนเป็นไข้มองอยู่ตลอด ก่อนที่คนตัวสูงจะโน้มหน้าผากลงมาทาบที่อวัยวะเดียวกันของคนตัวเล็กเพื่อวัดไข้ บัวหลับตาปี๋ทันทีกับความใกล้ชิดตรงหน้า
“ตัวยังร้อนอยู่เลย นายอยากให้ฉันเช็ดตัวให้มั้ย”
!!
บัวประมวลผลคำพูดของอีกคนก่อนจะรีบดันคนตัวสูงออกแล้วรีบมุดลงไปในผ้าห่มทันที เหลือแค่เพียงผมฟูไม่เป็นทรงโผล่พ้นผ้าห่มขึ้นมา บอสหัวเราะกับท่าทางแบบนั้นของคนตัวเล็ก
บัวไม่เคยรู้หรอกว่าตัวเองน่ารักแค่ไหน
ก็เหมือนกับเขา… ที่ไม่รู้ตัวว่าตอนนี้คิดถึงเรื่องของเพื่อนสนิทอีกแล้ว
บอสลอบยิ้มกับตัวเองจนเกิดรอยบุ๋มที่ข้างแก้ม ก่อนจะใช้มือลูบผมฟูๆของอีกคนไปมา คนตัวเล็กยังดื้อไม่ยอมเปิดผ้าห่มมาคุยกันดีๆ เขาจึงก้าวขาพาดคร่อมอีกคน กางแขนทาบกักตัวคนใต้ร่างไว้ โดยตอนนี้มีแค่ผ้าห่มผืนใหญ่
แค่ผ้าห่มผืนเดียวที่กั้นอยู่ระหว่างเขากับบัว…
คนตัวเล็กดิ้นนิดๆ ครางเสียงอู้อี้บอกให้เขาลงไปเพราะเริ่มหนัก ก่อนที่จะบ่นงุ้งงิ้งว่าปวดหัวอยากให้เขาเลิกแกล้งสักที
(ตึกตัก ตึกตัก)
“บัว….”
ร่างสูงโน้มตัวลงไปกระซิบกับกลุ่มผมนุ่มของอีกคน
“…..”
“ฝันดีนะ…”
พูดจบบอสก็เป่าเข้าเบาๆ ที่ขมับของเพื่อนสนิทตัวเล็ก
.
.
.
ร่างสูงก้าวเข้ามาในห้องของตัวเองตอนสี่ทุ่มกว่าๆ หลังจากที่อยู่เฝ้าคนป่วยได้สักพัก บอสอมยิ้มกับตัวเองขณะที่สองมือก็จับเสื้อยกขึ้นแล้วถอดเหวี่ยงไปที่ตะกร้า เขาจะไปอาบน้ำให้สบายตัวหลังจากที่ล้ามาทั้งวัน
‘พ.. พรุ่งนี้ตื่นมาทำอาหารให้ฉันกินด้วยล่ะ’
ขาเรียวชะงักกึกทันทีที่คำพูดสุดท้ายของเพื่อนสนิทตัวเล็กลอยเข้ามาในหัว
บัวชอบกินทุกอย่างยกเว้นแครอท…
ผลไม้ที่ชอบที่สุดคือองุ่น
อาหารจานโปรดคือแกงเขียนหวานกับหมูทอด
…หมูทอดฝีมือบอส…
มันเหมือนกับทุกครั้ง เวลาที่คิดเรื่องของเพื่อนสนิทตัวเล็กทีไร…
เขาจะรู้สึกเสียการควบคุมทุกที…
ความคิดที่จะไปอาบน้ำเป็นอันต้องหยุดชะงักลง บอสยกสองมือขึ้นนวดขมับก่อนที่จะเดินเอื่อยๆล้มหงายลงไปบนเตียงขนาดห้าฟุตกลางห้อง นวดพอให้ผ่อนคลายได้สักพักพลันสายตาก็หันไปเห็น สิ่งที่ตั้งอยู่ข้างเตียงเขามาหลายเดือน
ไวนิลบัวตอนไปค่ายอาสา…
เป็นค่ายอาสาพัฒนาโรงเรียนที่เพื่อนตัวเล็กของเขาดันเป็นรองประทานชมรม และด้วยความน่ารักของคนตัวเล็กทำให้ได้ขึ้นบอร์ดโปรโมทการไปค่ายอาสา
คนอื่นคงได้เห็นความน่ารักของบัวหมดแล้ว เห้อ ผมล่ะหวงจริงๆ
บอสพลิกตัวหันไปสบตากับตาหยีๆ ของไวนิลของเพื่อนสนิท ตาสระอิที่มาพร้อมรอยยิ้มหวานที่เขาชอบมอง ไล่ลงมาที่แก้มที่เพื่อนในกลุ่มคนอื่นๆ ชอบล้อว่ามันนุ่มนิ่มเหมือนขนมโมจิ ไหนจะริมฝีปากบางๆ นั่นอีก ที่จะมองไกล้มองไกลก็ดูน่าชิมไม่แตกต่างกัน ทุกอย่างที่เป็นอีกคนเขาชอบมันทั้งนั้น ร่างสูงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
เขากำลังส่งยิ้มแบบที่เขาคิดว่าอบอุ่นที่สุด…ให้กับไวนิลของบัว
เรื่องราวของเราสองคนมันเกิดขึ้นมานานแล้ว….
ความสัมพันธ์แบบคลุมเครือที่ไม่มีใครคิดจะแก้ไข เป็นความสัมพันธ์แบบแม่เหล็กที่ถึงเราจะไกลออกไปขนาดไหนโลกก็จะเหวี่ยงอีกคนให้มาเจอกันอยู่ดี พอผมเริ่มไกลออกไป เขาจะเริ่มตามมาวอแว ไม่ยอมให้ห่าง ไม่ยอมให้แยกจากกัน ผมไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะครับ แต่เราเป็นแม่เหล็กหัวใจที่ทั้งผลักและดูด เพราะแบบนี้เขาและบัวเลยเหมือนมีช่องว่างเล็กๆที่กั้นระหว่างกันอยู่
บอสเคยคิดว่าการยอมรับว่าตัวเองชอบเพื่อนสนิทในกลุ่มเป็นสิ่งที่ยากที่สุด…
แต่ตอนนี้สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับเขา คือ การบอกรักเพื่อนสนิทอย่าบัว
บอสขบกรามแน่น เขารู้ว่าส่วนหนึ่งมันเป็นความผิดของเขาเอง เวลาที่ชอบใครมากๆ เขาจะทำอะไรไม่ถูก กลายเป็นเขาแสดงออกมาตรงกันข้ามกับสิ่งที่อยากทำ แต่ตอนนี้ร่างสูงคิดว่ามันไม่ไหวแล้ว ความต้องการของเขาที่มีต่อเพื่อนสนิทตัวเล็กมีมากเกินไป
ปิดบังอยู่ตั้งนาน
และมันอัดอั้นใจ
ยิ่งเราใกล้ชิดกัน
ยิ่งหวั่นไหว
เธอสบตา
กลับหลบตาเธออยู่เรื่อยไป
ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ
แต่มันคือแสนไกล
ยิ่งเธอเป็นเหมือนเพื่อนสนิท
ยิ่งไม่มีสิทธิ์จะบอกไป
เพื่อนสนิท, เอ็นโดรฟิน
โธ่เว้ย! ออกไปจากหัวสิวะ!!!
ร่างสูงสะบัดหัวไปมา พร้อมขยี้ผมแรงๆจนยุ่งไปหมด ช่วงขายาวดิ้นไปมาตามแรงอารมณ์ ความคิดของเขากำลังตีกันวุ่น อีกไม่กี่วันก็วันเกิดบัวแล้ว เขาอยากจะทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้น อยากให้วันนั้นเป็นวันพิเศษ และเขาต้องกล้ามากพอที่จะเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์คลุมเครือที่เกิดขึ้นตอนนี้
เขาจะลดช่องว่างนั่นซะ… ขยี้มันให้แหลกด้วยตัวของเขาเอง
บัวไม่ใช่แค่เพื่อนสนิท… บัวเป็น คนพิเศษ ของบอส
ร่างสูงตัดสินใจกับตัวเองเงียบๆก่อนจะลุกขึ้นมาสบตากับไวนิลของบัวอีกครั้ง คราวนี้เขาไล่สายตามองตั้งแต่คอขาว ไล่มาหยุดเป็นระยะตรงช่วงหน้าอกและท้องของร่างเล็ก ก่อนที่จะผลุบสายตาไปที่กางเกงสีขาว ที่ซ่อนขาเนียนๆของบัวเอาไว้
ไวนิลบัว…..ก็เหมือนบัว
บอสเลื่อนมือมาแกะปมเชือกตรงขอบกางเกงขณะที่สายตายังจับจ้องที่ไวนิลของคนตัวเล็ก เหตุการณ์แบบนี้มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆ ตั้งแต่เขาหอบมันขึ้นรถในวันนั้น กางเกงวอร์มอดิดาสพร้อมกางเกงในคาลวินไคล์ถูกดึงลงให้ต่ำพอที่เขาจะปลดปล่อยสิ่งที่อึดอัดอยู่ภายใน
ไม่อยากจะยอมรับว่ามันแข็งตั้งแต่เห็นบัวบนเตียงนั่นแล้ว..
บอสรูดรั้งปลดปล่อยอารมณ์ให้อยู่เหนือทุกอย่าง เขาทำมันในขณะที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ไวนิลที่มีหน้าขอบเพื่อนสนิทตรงหน้า พลันความคิดก็ย้อนกลับไปตอนที่อยู่ในห้องของบัว ภาพที่เขาเห็น คือ ตาหยีๆ เล็กๆ นั่น แก้มขาวๆน่ าบีบ ปากบางที่ชอบถามนู่นนี่ กับร่างกายที่ซีดเพราะพิษไข้ เสียงแหบแห้งตอนคุยกับเขา หน้าของบัวตอนระยะห่างระหว่างเราเหลือเพียงไม่กี่เซ็น ทุกอย่างของร่างเล็กปลุกสัญชาติญาณดิบของบอสได้เป็นอย่างดี เหงื่อมากมายเริ่มผุดขึ้นตามใบหน้าหล่อ คนตัวสูงตาเยิ้มตามแรงอารมณ์ที่กำลังไต่สูงขึ้นเรื่อยๆ เขาสูดปากหอบเกร็งขณะที่มือยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างหนักแน่น
“อ่า…ซี๊ดด…บัว.. ฮึ่ม… บัว.. อื้มมม….”
บอสจับรูดส่วนนั้นที่ขยายขึ้นอยู่ในตอนนี้อย่างเอาแต่ใจ ตอกย้ำความน่าอายของตัวเองที่รูสึกกับเพื่อนสนิทได้ถึงขนาดนี้
“บัว.. อ่าส์.. บัวอื้มม.. อ่า… ซี๊ดส์”
“บัว.. บัว… อื้มม. ฮื้ม…”
“อ่าส์!”
ร่างสูงรูดเกร็งหลายครั้งหลังจากปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นออกมามากมาย
อ่าส์… เสร็จแล้วก็ต้องหาอะไรมาเช็ดไวนิลอีกแล้วสิ.. คราวนี้เอาเป็นผ้าเช็ดตัวพี่กายดีมั้ยวะ?
ผมนี่มันน่าอายจริงๆ