Editor ตัดได้ทุกอย่างยกเว้น “เธอ” : Alert36

นิยายสั้นรักโรแมนติค (Romantic)

“หา มึงชอบน้องเขาอ่อ เชี่ย”

“เชี่ยดิ กูโคตรแย่” ผมตัดสินใจเล่าเรื่องให้กรฟัง พอให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง

“’งี้มึงก็ใจตรงกับน้องเขาดิ”

“ก็น่าจะนะ แต่กูเริ่มไม่แน่ใจน้องเขาแล้วอ่ะ”

“ทำไมวะ มึงรู้มั้ยว่าน้องเขาแอบชอบมึงมาหลายปีแล้วนะ” หืม เหมือนหูฝาด

“อะไรคือหลายปี”

“คืองี้ น้องเขาพยายามจะเข้าหามึงมานานแล้วมั้ง พอเขารู้จักกูที่เป็นเพื่อนกับมึง น้องเขาก็ขอให้กูช่วยหาคิวว่างของมึงให้น้องเขาที”

“กูสับสนไปหมดแล้ว”

“มึงจำเมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อนได้มั้ยช่วงที่มึงฮอตมากคิวงานไม่ว่างเลย มีแต่คนจ้างมึง วันที่มึงไปให้สัมภาษณ์รายการนึงวันนั้นอ่ะ” ผมพยายามนึกเรื่องที่เพื่อนกำลังรื้อฟื้น จนเริ่มจำได้ลางๆ

“กูจำได้แล้ว!”

“ใช่ คนนั้นล่ะ แล้วมึงจะเอาไงต่อ”

“ไม่รู้ว่ะ กูแค่กลัวอ่ะ แฟนเก่าๆ กูก็…”

“เฮ้ย มึงต้องเปิดใจดิ แฟนเก่ามึงแต่ละคนเป็นใครบ้าง พนักงานบัญชีเอย เด็กพาร์ทไทม์เอย ครูเอย อาจจะไม่ได้เข้าใจสายงานมึงเท่าไหร่ แต่น้องเจแปนเขาก็อยู่ในวงการ งานก็เยอะอาจจะไปกันรอดก็ได้”

“กูยังไม่อยากเอาเรื่องอาชีพมาตัดสินว่าเข้ากันไม่ได้ว่ะ”

“เฮ้อ งั้นแล้วแต่มึงเถอะขึ้นคานต่อไปก็แล้วกันเพื่อน”

ไอ้กรเตือนสติ ผมไล่มันกลับไปโดยที่บอกว่าเดี๋ยวผมเอางานไปส่งด้วยตัวเอง ให้มันกลับไปมือเปล่า แล้วมานอนขดตัวคิดเรื่องวันนั้น เป็นวันที่ผมมีคนติดต่องานเยอะระดับที่มีคนเชิญออกไปพูดให้รายการหนึ่ง เกี่ยวกับฟรีแลนซ์เก่งๆ หลังจากที่ผมออกมาที่ห้องสตูดิโอถ่ายทำ ผมก็เจอเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เธอมองผมอย่างเขินๆ ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไร เธอบอกผมว่าเธออยากร่วมงานกับผม ผมเลยให้เธอติดต่อกับเลขาในตอนนั้น แต่เหมือนเงินเธอจะจ้างไม่ไหวเลยเงียบหายไป แถมจะติดต่อผมโดยตรงก็ยากมาก เพราะผมทำงานอย่างเดียว แต่ไม่คิดว่าวันนี้เธอจะดังแล้วมาอยู่ในฐานะลูกค้า ลูกค้าคิดไม่ซื่อด้วย

ผมก็เป็นลูกจ้างที่คิดไม่ซื่อเหมือนกัน

ประเด็นตอนนี้คือ ผมต้องตัดสินใจคืนดีกับเธอให้เร็วที่สุด ให้เราเข้าใจกัน ไม่ใช่ตึงกันแบบนี้
.
.
.

วันต่อมาเลยตัดสินใจพกงานลงแฟลชไดร์ฟและนัดเธอมาที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง ผมนั่งรอเธอก่อนเวลานัดถึงครึ่งชั่วโมง เอาเข้าจริงก็ตื่นเต้นไม่น้อย ทำวีรกรรมไว้เยอะ เผลอว่าเธออย่างนั้นอย่างนี้ ผมมันปากหมาชิบ แต่เมื่อคืนนอนคิดทั้งคืนว่าจะเอายังไง ถ้าเราได้คบกันเธอจะดีใจมั้ย ผมจะดูแลเธอดีมากกว่าใครที่ผ่านมาหรือเปล่า ไม่คิดเลยว่าผมจะเปลี่ยนความคิดไปมากขนาดนี้

“สวัสดีค่ะ” เธอเดินเข้ามาด้วยสีหน้านิ่งเฉย ถึงจะแต่งหน้าเบาๆ แต่ก็ดูออกว่าไม่สดใส

“นี่งานครับ” เจแปนพยักหน้า

“เอ่อ…เจแปนคือ” เธอเงียบรอฟังผมพูด “ผมขอโทษที่เผลอล้ำเส้นคุณนะ” ให้ตายเถอะ ผมขอโทษแล้วทำไมเธอต้องดูเสียใจกับคำพูดผมอีกแล้ว

“ฉันยอมแพ้แล้วค่ะ” ยอมแพ้…?

“ฉันไม่อยากกวนใจคุณแล้ว”

“เดี๋ยวก่อน ทำไมเป็นแบบนั้น”

“ก็คุณเอาแต่ขอโทษๆ คุณก็ไม่ได้เต็มใจที่จะรับความรู้สึกของฉันนี่ ฉันก็ไม่อยากฝืนใจใครแล้ว”

“แต่เธอชอบผมมาหลายปีเลยไม่ใช่เหรอ”

“คุณรู้ได้ไง คุณกรเล่าให้ฟังเหรอ”

“ช่างหัวมันเถอะ แต่เธอจะทิ้งความรักแบบนี้ไปได้ยังไง”

“นี่ นั่นก็คือความรักที่ฉันมีต่อคุณนะ อย่าพูดเหมือนเพื่อนที่ให้คำปรึกษากันได้มั้ยคะเนี่ย”

“งั้นจะทำยังไง แต่ผมไม่อยากเลิกหรอกนะ”

“เรายังไม่ทันคบกันเลยนะคุณกุมภา” ผมว่าผมรีบร้อนพูดจนมั่วไปหมดแล้วล่ะ

“ถึงตอนนี้ผมยังไม่แน่ใจที่จะดูแลเธอได้ดีมั้ย เพื่อไม่ให้ทิ้งผมไปเหมือนคนเก่าๆ แต่ตอนนี้ยังไงก็ไม่ปล่อยให้เธอหนีไปไหนอีกหรอกนะ”

“เหมือนคำสารภาพรักเลยนะคะ” ผมสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะเบี่ยงหน้าหนี ไม่สบอารมณ์ที่เหมือนโดนเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ กำลังต้อนอยู่เลย

แต่นั่นก็ทำให้ผมเริ่มเปิดใจอีกครั้ง และอยากจะดูแลความรักครั้งนี้ให้มันดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วย

“คบกับผมได้มั้ยครับ…?” สิ้นเสียงประโยคแสนหวาน เธออมยิ้มจนแทบจะเก็บไม่อยู่