แสนคำลือ : ก.ไกรศิรกานท์

นิยายสั้นย้อนยุค ฉากสมัยโบราณ อิงประวัติศาสตร์ (Historical/ History)

โดย : ก.ไกรศิรกานท์
ลิขสิทธิ์ : Magic Time Media & เติมฝัน (termfun.com)

เสียงโลหะกระทบกันดังเกียวกราวใกล้เข้ามาทุกขณะ หากแต่บุรุษทั้งสองที่กึ่งหอบกึ่งหิ้วกันมานั้น ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีอาการคร้ามขยาดหวาดกลัวแต่ประการใด

ฟังจากเสียงดาบต้องกระทบกัน เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าพวกมันคงจะใกล้เข้ามาถึงหน้าค่ายแล้วเป็นแน่แท้ !

“ป้อเจ้าเข้าไปอยู่ตางในเต๊อะเจ้า ข้างนอกนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของไอ้แสนคำลือมันเต๊อะ”

“บ่ได้ เฮาจะปล่อยให้แสนคำลือมันสู้คนเดียวบ่ได้ หมู่ม่าน (ม่าน = พม่า) มันมากันเป็นร้อยเป็นพัน แสนคำลือมันจะสู้ลำพังคนเดียวได้อย่างใด”

คนที่ถูกเรียกว่า ‘ป้อเจ้า’ หรือ ‘พ่อเจ้า’ ยังคงฮึดฮัดดึงดันจะออกไปจากที่ซ่อนตัวเสียให้ได้ ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งก็ยังดึงดันที่จะขัดขวางเจ้านายของตนไว้อย่างสุดชีวิตเช่นกัน

“บ่ได้เน้อเจ้า ถ้าป้อเจ้าจะออกไป ก็ต้องข้ามศพไอ้จเรน้อยคนนี้ออกไปก่อนเน้อ!”
.
.
.

ทันทีที่พาหนะคันยาวหยุดโมเมนตัมการหมุนของวงล้อ เด็ก ๆ ต่างก็รีบแย่งกันกรูลงจากรถ กลุ่มเด็กหนุ่มก็มุ่งหน้าตรงไปเสาะหาห้องน้ำก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนกลุ่มเด็กสาวก็ไม่น้อยหน้าที่จะจับกลุ่มเอียงท่าหน้าหลัง หยิบเอาโทรศัพท์มือถือออกมาเก็บภาพกันพัลวัน ทั้งภาพเดี่ยวภาพหมู่ ราวกับว่าพวกเธอเป็นนางแบบชื่อดังก็ไม่ปาน

“อ้าว ธัญวรัตน์… เธอไม่ลงไปไหว้เจ้าพ่อกับพวกเพื่อน ๆ ของเธอเหรอ” ครูหนุ่มเอ่ยถามเมื่อเห็นลูกศิษย์คนโปรดยังคงนั่งนิ่งอยู่บนรถเพียงลำพัง

“ครูบอกให้พี่คนขับเค้าจอดที่นี่นานมั้ยครับ?” เขาถามกลับแทนคำตอบ

“ก็ประมาณเกือบสามสิบนาทีน่ะนะ… คงจะนานพอดูอยู่เหมือนกัน ถ้าเธอยังคิดจะนั่งเป็นเจ้าพ่อจำเป็นอยู่บนรถทัวร์นี่”

ธัญวรัตน์อดยิ้มน้อย ๆ ไม่ได้กับ ‘คำชักชวน’ ของคุณครู เขาทำทีเป็นถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะยอมเดินลงจากรถ ตามหลังคุณครูไปแต่โดยดี

“ไปสักการะเจ้าพ่อด้วยกันดีกว่านะ”

“ครูไปคนเดียวเถอะครับ ผมไม่ชอบ!”

ครูหนุ่มชะงักฝีเท้า หันไปมองหน้าลูกศิษย์คนโปรดโดยไม่ตั้งใจ พยายามทุกวิถีทางที่จะเค้นเอาเหตุผลผ่านทางสายตาสีสนิมเหล็กของลูกศิษย์

“ผมไม่ได้รังเกียจนะครับครู เพียงแต่ผมไม่อยากจะยกมือไหว้…เขา”

คำหลังสุด…เด็กหนุ่มเอ่ยมันออกมาเพียงแผ่วเบาพอได้ยินอุบอิบในลำคอ ทว่าก็ยังไม่พ้นโสตประสาทของครูหนุ่มไปได้

“เขา ? … เธอหมายถึงเจ้าพ่อประตูผาน่ะเหรอ?”

ธัญวรัตน์เบือนสายตามองไปยังศาลเจ้าพ่อประตูผาเนิ่นนาน

“ครูครับ บางครั้งการเป็นวีรบุรุษมันก็ควรจะอยู่บนเหตุผลอันสมควร ครูว่ามั้ยครับ?”

“เธอหมายความว่ายังไง?”

“ผมว่า ‘แสนคำลือ’ ไม่สมควรที่จะเสียสละชีวิตเพื่อคนขี้ขลาดตาขาวพรรค์นั้น!”