แผนลับ แดนต่างดาว : ร่ำฝน

นิยายสั้นแนวแฟนตาซี (Fantasy)

“ไม่รู้ว่าเจ้าสงสัยอันใด ตอนที่เจ้าหมดสติ เราได้ฝังชิพที่ทำให้เจ้าสามารถเข้าใจภาษาของเราได้ เพื่อให้สามารถสื่อสารกันรู้เรื่อง”

“พวกคุณจับฉันมาทำไม? ที่นี่ที่ไหน? แล้วทำไมฉันถึงขยับตัวไม่ได้!?” พรฟ้ารีบยิงคำถามใส่กลุ่มบุคคลตรงหน้าด้วยความร้อนรน

“ที่นี่คือดาว MexMelden 48 ซึ่งอยู่ในกาแล็กซี่ออฟซิมุส และเจ้ากำลังนอนอยู่ในฐานทัพสภาของเรา เมื่อวันก่อนเราได้มาที่โลกเพื่อศึกษาพันธุกรรมที่หลากหลายของมนุษย์โลก เราเคยจับกลุ่มคนที่มีเลือดกรุ๊ปปกติและพิเศษมาแล้ว และพบว่าเลือดกรุ๊ปพิเศษของมนุษย์เป็นประโยชน์ต่อการใช้เป็นวัคซีนภูมิคุ้มกันรังสีของเรามาก แต่ยังขาดส่วนประกอบบางอย่างทำให้การทดลองไม่เป็นผลสำเร็จจึงต้องกลับไปดูคนที่มีเลือดกรุ๊ปพิเศษระดับสูงกว่าที่ทดลอง และเจ้า…ก็คือคนผู้นั้น!”

“ไม่นะ! ฉันยังไม่อยากตาย”

“จงใช้เวลาชีวิตของเจ้าคร่ำครวญไปเถิด พรุ่งนี้เช้าเราจะเริ่มการทดลองแล้ว กว่ายาชาจะหมดก็อีกหลายชั่วโมงเลย นอนให้สบายใจเถิด”

เมื่อชายผู้นั้นกล่าวจบก็เดินออกไปพร้อมบุคคลอื่น ทิ้งให้หญิงสาวบนเตียงนอนกัดฟันด้วยความเจ็บใจในโชคชะตาของตัวเองที่จะมาได้เพียงเท่านี้
.
.
.

เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมง พรฟ้าที่เผลอหลับไปค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายบางอย่าง พอจับใจความว่าให้เรียกรวมพลกันเข้าประชุมด่วน หญิงสาวรู้สึกแปลกใจที่เวลานี้ร่างกายของเธอหมดจากฤทธิ์ยาชาเร็วกว่าที่พวกมนุษย์ต่างดาวนั้นบอกและด้านนอกก็ไม่มีคนคุมแล้ว จึงตัดสินใจจะหนีทันที!

เธอพยุงร่างกายตัวเองที่ยังมึนงงจากฤทธิ์ยา เดินออกจากห้องทดลองและวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ผ่านห้องที่พวกกองกำลังประชุมอยู่ไปได้ ก่อนจะออกผ่านพ้นประตูฐานทัพที่มีลักษณะเป็นแคปซูลใหญ่และหนีเข้าป่าทันที
.
.
.

พรฟ้าวิ่งฝ่าป่ารกชัฏในยามราตรีจนข้ามผ่านกำแพงเลเซอร์สีแดงยาวครอบคลุมพื้นที่ ซึ่งเธอคิดว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการกั้นเขตแดนของฐานทัพกับเขตปกติของชาวต่างดาวทั่วไปที่อาศัยอยู่ร่วมกัน หญิงสาววิ่งไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องตกใจเมื่อจู่ ๆ นกตัวใหญ่สูงกว่าร่างเธอ แต่มีปากและฟันที่แหลมคมประดุจเสือก็มาขวางหน้าและมีท่าทีมุ่งร้าย แต่ก่อนที่เธอจะได้วิ่งหนีมันไป เสียงไพเราะของขลุ่ยที่ดังเคล้าคลอกับสายลมก็ดังขึ้น พร้อมกับการปรากฏตัวของชายหนุ่มปริศนาผู้มีใบหน้าใต้หน้ากากกำลังย่องเข้ามาพร้อมมือที่กุมปากซึ่งกำลังผิวทำนองหวานอยู่ ส่งผลให้เจ้านกตัวนั้นเกิดความหวาดกลัวจนหนีไปท่ามกลางความงุนงงของพรฟ้า

“เจ้าไม่ใช่ชาวดาว MexMelden 48 นี่ ดูจากการแต่งตัวที่ไม่มิดชิด และระบบหายใจที่สามารถทนต่ออากาศอันเลวร้ายของที่นี่ได้ โดยไม่ใส่หน้ากาก…เจ้าเป็นผู้ใดกัน” ชายหนุ่มเอ่ยถามหญิงสาวด้วยสีหน้าประหลาดใจ

ด้วยสัมผัสได้ว่าชายหนุ่มเป็นคนดี พรฟ้าจึงตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้เขาฟัง ก่อนจะขอความช่วยเหลือจากเขาในทันที

“ข้าไม่น่าเป็นคนใจอ่อนเช่นนี้เลยก็ได้ ข้าจะช่วยเจ้าหลบซ่อนตัวไปก่อน และจะหาทางแอบส่งเจ้ากลับโลกก็แล้วกัน เพราะการจะไปที่โลกได้ก็ต้องไปกับพวกสภาเท่านั้นล่ะ ได้ยินว่าอีกไม่กี่วันพวกเขาก็จะส่งแผนกนิเวศวิทยาไปสำรวจพืชที่โลก ข้ามีเพื่อนอยู่ในทีมนั้นพอดี ไว้ถึงเวลานั้นข้าจะให้มันหาทางพาเจ้าแอบขึ้นไปด้วยก็แล้วกัน”

ชายหนุ่มบอก แต่เธอก็เห็นท่าทีเหนื่อยหน่ายใจของเขาที่จะต้องเสี่ยงเพื่อช่วยเธอ แต่เธอก็ไม่รู้จะพึ่งใครได้แล้วจริง ๆ

“ขอบคุณนะฟอล์ทเซย์” หญิงสาวกล่าวแสดงน้ำใจกับชายตรงหน้า

ร่างสูงให้เธอสวมหน้ากากที่พกมาสำรองเพื่อไม่ให้คนอื่นจับได้ ด้วยเพราะที่ดาวดวงนี้มีอากาศที่สะสมไปด้วยก๊าซชนิดหนึ่ง ซึ่งทำให้ทุกคนไม่สามารถหายใจได้สะดวก รวมถึงแสงที่ทำให้ผิวลอกไหม้จนเกิดอันตรายได้ จึงต้องใส่เสื้อผ้าที่สามารถปกคลุมได้ทั้งร่างและใส่หน้ากากเพื่อกรองออกซิเจน กับป้องกันไม่ให้ใบหน้าซึ่งเป็นส่วนละเอียดอ่อนที่สุด สัมผัสกับความร้อนแรง