โดย : คีริน
ลิขสิทธิ์ : Magic Time Media & เติมฝัน (termfun.com)
คุณพี่ ม.6 ที่ฝังใจเป็นชายที่พึ่งเคยเห็นหน้าเป็นครั้งแรกตั้งแต่เรียนที่นี่มา…จากที่เรามองแล้ว
“พี่เขามีนิสัยเป็นคนเจ้าสำราญ รักสนุก ไม่ชอบการบังคับ กฎระเบียบหรือการผูกมัดใดๆ เพราะด้วยเหตุนี้พี่เขาจึงไม่ค่อยมาโรงเรียน ไม่เข้ากิจกรรม แถมมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมทำให้ผู้ปกครองและคุณครูต้องกลุ้มใจตลอด แต่สิ่งที่ดูย้อนแย้งและทำให้เรารู้สึกประหลาดใจก็คือ พี่เขาเป็นที่รักของเพื่อนในห้องและรวมไปถึงเพื่อน พี่ น้องของเราด้วย”
ไม่ว่าใครจะรักเขาแค่ไหนเราก็ไม่สน เพราะเราเกลียดเขามากและไม่มีทางที่จะคุยดีๆหรือมีความสัมพันธ์กับพี่คนนี้เด็ดขาด
วันแรกของเรา
เช้าวันที่อากาศแจ่มใส หลังจากการเลิกแถวเคารพธงชาติ นักเรียนและคุณครูวิ่งกันชุลมุน แย่งกันเข้าห้องเรียนบ้าง แย่งกันเข้าห้องน้ำบ้าง แต่เมื่อหลังจากความชุลมุนนั้นจบลง เราและเพื่อนก็เริ่มทยอยกันไปเข้าห้องเรียน ระหว่างทางที่เดินไปได้เจอกับกลุ่มรุ่นพี่กลุ่มที่รู้จัก พี่คนหนึ่งในกลุ่มเดินพุ่งเข้ามาหาเราทั้งๆที่เราไม่เคยเจอกันมาก่อน สักพักพี่ชายคนนั้นก็จ้องหน้าเรา มองเราตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วก็เชิดหน้าเดินหนีไป การกระทำของพี่คนนี้ทำให้เรารู้สึกโกรธมาก ไม่พอใจและก็สงสัยทำไมเขาจึงมองเราด้วยสายตาที่ดูเหยียดเราแบบนั้น คิดในใจว่า…….
“จะต้องสืบเรื่องพี่คนนี้ให้ได้ว่าเขาคือใคร มาจากที่ไหน แล้วเราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า ถ้าเจอหน้าอีกครั้งจะด่าให้ยับเลย”
แล้วเราก็เข้าเรียนด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด ทั้งแค้นใจ เรียนไปนึกถึงหน้าเขาไป
“เจอตัวเมื่อไหร่จะอาละวาดใส่ให้หมอบไปเลย”
เวลาล่วงมาถึงช่วงพักเที่ยง เราจึงรีบออกสืบหาข้อมูลของเขาทั้งจากเพื่อนเรา รุ่นพี่ รุ่นน้อง แต่ทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า
“คนนี้เป็นคนดีนะ นิสัยดี น่ารักแถมยังใจดีอีกด้วย”
เราตอบกลับไปว่า “คนนิสัยดีที่ไหนจะทำตัวแบบนี้กับเรา เขาสร้างภาพหรือเปล่า ทำไมทุกคนถึงมองเขาดี
ขนาดนี้ เรียนก็ไม่ค่อยเข้า กิจกรรมก็ไม่ทำ นี่หรอคนดีของทุกคน ไม่เชื่อหรอกโว้ย”
เป็นวันที่ทำให้เราหัวร้อนที่สุด ยิ่งฟังเรื่องดีๆของพี่เขามากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เราไม่พอใจมากขึ้นเท่านั้น แถมยิ่งแค้นและเกลียดพี่เขาขึ้นไปอีก หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้เจอพี่เขาอีกเลย
จุดเริ่มต้นของคำว่าเพื่อน
ในเช้าที่ไม่ค่อยสดใส วันนี้ใครๆก็ดูวุ่นวายกันไปหมด เราก็เดินเอาการบ้านไปส่งตรวจเหมือนวันปกติทั่วไป แล้วก็แวะไปส่งการบ้านสังคมที่ห้องปกครอง อยู่ดีๆก็ไปเจอรุ่นพี่คนที่ฝังใจของเราและครอบครัวนั่งอยู่ในห้องนั้น เราหันไปมองก็เห็นพ่อแม่พี่เขามีสีหน้าดูเครียดและกังวลมาก พี่แกมองหน้าเราด้วยแต่ครั้งนี้แปลกกว่าครั้งก่อน สายตาที่มองมาดูเศร้าปนกับกังวลและเหมือนต้องการจะบอกอะไรบางอย่างกับเรา แต่ครูห้องปกครองดันเดินออกมาก่อน ครูคนนั้นทำหน้าเหวี่ยงๆแล้วก็ตำหนิพี่เขาต่อหน้าพ่อแม่ว่า
“พ่อแม่รู้ไหมครับ ลูกของคุณไม่เข้าเรียนมาหนึ่งเดือนแล้ว ไม่ส่งงานวิชาใดเลย ช่วงม.5 ก็โดดเรียนไปร้านเกมบ้าง ไปกินเหล้ากับเพื่อนบ้าง มีส่วนในการก่อเรื่องทะเลาะวิวาทในโรงเรียน และไม่ให้ความร่วมมือในการเข้ามาฟังผมและครูท่านอื่นอบรม พ่อกับแม่คิดว่าผมควรทำอย่างไรกับลูกชายคนนี้ครับ ทำไมถึงไม่สั่งสอนลูกตัวเองให้ดีกว่านี้ ทำไมต้องปล่อยให้เป็นภาระของคนอื่นครับ”