เด็กสาวจากบ้านเด็กกำพร้า  : อารัญ

นิยายสั้นแนวเขย่าขวัญและระทึกขวัญ (Thriller)

เวลา 6 โมงเย็น

“กินเยอะๆ นะลูก” มนตรีพูดพร้อมกับใช้มือขยี้หัวไพลินเบาๆ ขณะที่เด็กหญิงกำลังเขี้ยวข้าวจนแก้มตุ่ย

“อีกแค่วันเดียวก็วันเกิดหนูแล้ว เราไปเที่ยวทะเลกันดีไหมคะ?”

หลังจากของขวัญเปิดประเด็นการสนทนาขึ้นมา ท่าทีของกุสุมาและมนตรีก็เคลื่อนไหวช้าลงจนแทบจะหยุดชะงักจากการรับประทานข้าวทันที

“พ่อติดธุระน่ะลูก เอาไว้เป็นวันหลังดีกว่านะ” มนตรีว่า

“งั้นเป็นวัน…”

“ไว้เราค่อยคุยเรื่องไปเที่ยวกันดีกว่า แม่ว่าอาทิตย์นี้พ่อคงไม่ว่างหรอกจ้ะ ไว้ทำสุกี้กินกันดีกว่ามั้ย?”

“เอางั้นก็ได้ค่ะ” ถึงจะผิดหวังเล็กน้อย แต่ของขวัญก็ยอมรับข้อเสนอของผู้เป็นแม่แต่โดยดี

“เราน่ะ พรุ่งนี้ก็สิบแปดแล้วใช่มั้ย” เป็นเสียงถามของผู้เป็นพ่อ

“ค่ะ พรุ่งนี้ก็อายุสิบแปดเต็มแล้ว”

“กินอิ่มแล้วอย่าลืมเอาจานไปเก็บด้วยนะ” กุสุมาพูดขัดบทสนทนาก่อนจะลุกออกไปจากโต๊ะอาหาร ปล่อยให้มนตรี ของขวัญ และไพลินนั่งทานข้าวกันต่อแค่สามคน
.
.
.

หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จสรรพของขวัญก็กลับเข้าห้องนอนของตัวเอง เธอเล่นโทรศัพท์และดูสินค้าออนไลน์ด้วยความเพลิดเพลิน ก่อนที่เธอจะนึกขึ้นได้ว่าเธอต้องกรอกเอกสารสำคัญบางอย่างที่โรงเรียนให้ทำ

“ต้องใช้บัตรประชาชนผู้ปกครองด้วยเหรอเนี่ย…” เด็กสาวพูดกับตัวเอง ก่อนจะวางโทรศัพท์แล้วเดินไปยังห้องเก็บเอกสารในบ้านเพื่อค้นหาสำเนาบัตรประชาชนของพ่อกับแม่บุญธรรมที่น่าจะมีหลงเหลือไว้อยู่บ้าง

เธอเดินไปยังลิ้นชักเก็บเอกสารสีขาวที่ตั้งอยู่บริเวณมุมสุดของห้อง เธอเปิดดูทุกลิ้นชักแต่ก็ยังไม่มีวี่แววของสำเนาบัตรประชาชนที่เธอต้องการ จนมาถึงเก๊ะลิ้นชักอันสุดท้าย…

ด้านในสุดของลิ้นชักมีสมุดบางอย่างที่ห่อด้วยผ้าสีแดงเอาไว้ ด้วยความสงสัยของขวัญจึงหยิบมันออกมา จากนั้นเธอจึงแกะผ้าออกและเปิดดูว่าข้างในสมุดเล่มนี้มีอะไร

ตัวปกเหมือนทำมาจากหนังอะไรสักอย่าง ข้างในหนังสือมีเพียงแค่ไม่กี่หน้า แต่หน้าแรกเป็นตัวหนังสือแปลกๆ ที่มีคำอ่านภาษาไทยกำกับไว้อยู่

“นาสะ มันโท อิรัสสะ จุตตะ…” เด็กสาวเริ่มออกเสียงพร้อมกับความรู้สึกแปลกๆ ที่แล่นอยู่ในความคิดของเธอ ‘นี่มันภาษาอะไรกันเนี่ย’ เด็กสาวคิดในใจ

“ทำอะไรน่ะขวัญ?” เป็นเสียงของกุสุมาที่ดังมาจากข้างหลังของเธอ

“นี่มันสมุดอะไรน่ะแม่” ของขวัญกำลังจะโชว์สมุดเล่มนี้ให้กุสุมาดู แต่เธอก็ดึงมันไปจากมือของขวัญเสียก่อน

“อย่าเข้ามารื้อของไปทั่วสิลูก… กลับไปนอนเถอะ ดึกมากแล้ว” พูดจบกุสุมาก็เดินจากไปพร้อมกับสมุดทันที ปล่อยให้ของขวัญยืนงงด้วยความสงสัยไปครู่หนึ่ง