หมอ (กับ) ผี : ดินสอสี

นิยายสั้นสยองขวัญ (Horror/ Chiller)

“คุณจะเชื่อได้หรือยัง” ชายหนุ่มยื่นหน้ามาถามหน้าเป็น

“ช…เชื่อ ผมเชื่อแล้วว่าคุณไม่ใช่คนปกติ” พฤกษ์ยังคงไม่กล้าใช้คำว่าผีหรือวิญญาณได้อย่างเต็มปากเต็มคำ เขายังคงตกตะลึงไม่หาย ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้เจอสิ่งเหนือธรรมชาติแบบนี้

“เอาล่ะ งั้นเราก็เป็นเพื่อนกันได้แล้วสินะ” ปราชญ์ยิ้มให้แต่เขาไม่ได้ตอบอะไร ขับรถกลับที่พักเงียบ ๆ ปล่อยให้อีกฝ่ายพูดอยู่คนเดียว

ปราชญ์เล่าว่าเขาเสียชีวิตไปเมื่อหกเจ็ดปีก่อน เขารับราชการเป็นครูโรงเรียนประถม เคยแต่งงานและปัจจุบันภรรยาของเขาก็เสียชีวิตแล้วเช่นกัน เขาเล่าต่ออีกว่าเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนนั้นรถของเขาชนเข้ากับรถบรรทุกแก๊ส เกิดไฟไหม้ใหญ่ จนไม่มีใครรอด เขาเสียชีวิตกะทันหัน แล้ววิญญาณเขาก็ยังติดบ่วงจนไม่ได้ไปเกิดใหม่เสียที จึงได้เป็นวิญญาณเร่ร่อนเหงา ๆ อาศัยอยู่แถวที่พักเดิมของตน

“คุณจะเข้ามาไหม” พฤกษ์ถามเป็นมารยาทเมื่อมาถึงหน้าห้องพักของเขา อันที่จริงเขาไม่ได้อยากเชิญชวนคนที่เพิ่งรู้จักเข้ามาในห้องเท่าไหร่

“ได้เหรอ ขอบคุณ” แต่ปราชญ์ดันไม่ปฏิเสธนี่สิ เอาเถอะ ยอมให้อยู่ด้วยสักสองสามวันก็แล้วกัน

พฤกษ์ปล่อยให้อีกคนนั่งเล่นอยู่บริเวณโซฟา ส่วนเขาก็แกะอาหารที่ซื้อมาจากแถวโรงพยาบาลใส่จานแล้วนั่งกินอยู่ในครัว นั่งได้ไม่นานคนที่อยู่ตรงโซฟาก็อยากรู้อยากเห็นถามนู่นถามนี่เต็มไปหมด ก่อนจะเอ่ยปากถาม

“ผมอยากดูดาว คุณมีที่ไหนแนะนำไหม”

“ดาดฟ้าไหม คุณเคยไปหรือเปล่า” พฤกษ์ถามก่อนจะได้รับคำตอบเป็นการส่ายหน้า หลังจากเก็บจานเรียบร้อยแล้วก็ฟ้ามืดพอดี เขาจึงพาอีกคนขึ้นไปยังดาดฟ้าของอาคาร

“สวยมากเลยนะเนี่ย” คนในชุดสีกากีตาเป็นประกายเมื่อเงยหน้ามองท้องฟ้าโปร่งที่มีดาวนับล้านดวงส่องแสงระยิบระยับ

“เวลาเครียด ๆ ผมชอบมาที่นี่ อากาศเย็นสบายแล้วก็สวยดี”

“ข้างล่างเห็นรถเยอะแยะไปหมด ดูวุ่นวายดีนะ” ไม่ว่าเปล่า ชายหนุ่มยืดตัวพิงกับกำแพงที่สูงเท่าเอวเพื่อก้มลงมองการจราจรด้านล่าง ท่าทางน่าหวาดเสียวจนพฤกษ์อดไม่ได้ที่จะขยับเข้าไปใกล้

“ในเมืองก็แบบนี้แหละ”

“นั่นสิ… เหวอ!”

“คุณปราชญ์!” ไม่ทันขาดคำ ปราชญ์เอนตัวไปด้านหน้าจนตกลงไปด้านล่าง แพทย์หนุ่มรีบพุ่งตัวเข้าไปคว้าตัวอีกคนไว้แต่ไม่ทัน ตัวเขาก็ถลาลงมาจนเกือบตกเช่นกัน ดีที่คว้าขอบกำแพงไว้ได้ทัน