ศาลเจ้าริมทาง : AMKG

นิยายสั้นสยองขวัญ (Horror/ Chiller)

พอถึงร้านค้าติมก็เดินไปซื้อน้ำมันใส่เติมใส่รถ และพวกเพื่อนๆอีกสี่คนก็พากันลากลับบ้านแยกย้ายกันไป

พอติมเติมน้ำมันเสร็จก็พาฉันซ้อนรถกลับไปส่งบ้าน เราก็วนรถกลับไปทางเก่านั่นเอง ระหว่างที่เราขับรถกลับ พอไปถึงกลางซอยที่ต้นไม้ต้นเดิม ฉันก็ยังคงมองไปที่ศาลเหล่านั้น แต่ที่เพิ่มมาคือคุณลุงอีกคนที่ยืนอยู่ที่หน้าศาล แต่ยืนหันหลังให้ทางฉันและหันหน้าเข้าไปที่ศาล ท่าทางเหมือนกำลังทำอะไรกับศาลอยู่

ฉันก็ได้แต่คิดในใจว่าคงเป็นคนที่บ้านอยู่แถวๆนั้นหรือเป็นคนที่คอยดูแลศาลมาจัดศาลก็เป็นได้

เมื่อถึงบ้านของฉัน ก็เจอกับแม่ของฉันอยู่ที่บ้านเช่นเคย ฉันเลื่อนเปิดรั้วเดินเข้ามาในบ้าน พร้อมๆกับติมที่เดินตามเข้ามา

“สวัสดีครับแม่ มาส่งพิมครับ” ติมเอ่ยกล่าวสวัสดีแม่ของฉัน

“จ๊ะ ขอบใจนะที่มาส่งพิม” แม่ฉันตอบกลับติม

“แล้วนั่นคุณลุงที่ไหนหรอ มากับเราหรอ แล้วมากันยังไงล่ะ ซ้อนรถมาสามคนหรอ แล้วทำไมให้คุณลุงไปยืนรออยู่หน้ารั้วล่ะ เรียกคุณลุงมานั่งพักก่อนสิ ข้างนอกมันร้อนนะ” แม่พูดพลางมองไปที่หน้ารั้วแล้วหันมาพูดกับติม

“ไม่มีนะครับ ผมมากับพิมแค่สองคนครับ แม่หมายถึงคุณลุงที่ไหนครับ” ติมตอบกลับแม่พลางหันกลับไปมองที่รั้วที่ว่างเปล่า

“อ่าว ไปไหนซะแล้วล่ะแม่ก็คิดว่ามากับพวกเราซะอีก สงสัยคนเก็บของเก่าแถวๆนี้” แม่ตอบพร้อมกับเดินกลับเข้าบ้านไป

ฉันและติมก็นั่งเล่นกันอยู่ที่โต๊ะหน้าบ้านอยู่สักพัก ติมก็ขอตัวกลับบ้านไป

ฉันก็เข้าบ้านไปอาบน้ำทำงานบ้านตามปกติ และแล้วก็เข้าช่วงเวลาค่ำคืน ประมาณสามทุ่มฉันก็เข้าห้องนอน ซึ่งฉันจะนอนอยู่ห้องเดียวกันกับคุณยายของฉัน คุณยายกับฉันเรานอนด้วยกันมาตลอด

เพราะคุณยายเลี้ยงฉันมาตั้งแต่เด็ก และเราตัวติดกันมาก คุณยายของฉันอายุหกสิบกว่าแล้ว แต่ก็ยังแข็งแรงอยู่มากๆ ในเวลาสามทุ่มที่เรานอนกันอยู่นั้น เรารู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่เงียบสงัด วันนี้มีเรื่องแปลกคือมีเสียงเห่าหอนของสุนัขแถวๆบ้านอย่างต่อเนื่อง ดังอยู่นานมาก เสียงที่เห่าหอนกันนั้นก็ฟังดูวังเวงใช้ได้เลยทีเดียว เป็นเสียงที่เยือกเย็นลอยดังตามสายลม แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไรกัน ก็นอนหลับกันตามปกติ

ฉันนอนเล่นโทรศัพท์จนกระทั่งเผลอหลับไป รู้สึกตัวมาอีกทีเพราะสะดุ้งอย่างสุดแรง เพราะฉันรู้สึกได้ถึงแรงกระชากที่มากระชากขาของฉันจากทางปลายเตียง ฉันสะดุ้งตัวขึ้นมานั่ง และมองไปที่ปลายเตียง

แต่อาจด้วยเพราะพึ่งจะตื่น ฉันจึงยังมองอะไรไม่ชัดนัก เห็นก็แต่เพียงเงาใหญ่ๆเงาหนึ่งตะคุ่มอยู่ที่ปลายเตียงของฉัน ฉันพยายามที่จะกะพริบตาเพื่อปรับสายตาให้มองเห็นชัดขึ้น แต่ก็ยังเห็นเงาใหญ่นั้นชัดเจน

เงานั้นดูสูงใหญ่ที่ทำให้คาดเดาได้ไม่ยากว่าเป็นรูปร่างของผู้ชายอย่างแน่นอน ฉันจึงตกใจอย่างมากรีบหันไปปลุกคุณยาย เพราะบ้านของเรานั้นมีกันแค่ห้าคน คือฉัน ยาย พ่อ แม่ และน้องชายอีกคน

และทั้งพ่อและน้องชายของฉันก็ต่างเป็นคนร่างเล็กตัวผอมบางกันทั้งนั้น ไม่มีใครที่ตัวสูงใหญ่ขนาดนี้

ฉันหันไปปลุกยายด้วยความตกใจที่มีคนแปลกหน้าเข้ามาในห้อง ฉันเขย่าตัวคุณยายอย่างแรง

“มีอะไรหรอลูก” คุณยายลืมตาตื่นมาถามฉันด้วยอาการงัวเงีย

“มีใครไม่รู้อยู่ตรงนั้นค่ะ ที่ปลายเตียง” ฉันชี้ไปที่เตียงโดยที่ไม่ได้หันไปมอง เพราะด้วยความกลัว