เธอทำรองเท้าตกน้ำ และกำลังไหลไป เธอพยายามจะวิ่งตามไปเก็บรองเท้า ทำให้เธอลื่นล้มในน้ำ ทำให้เต๋าต้องรีบถอดเสื้อและกางเกงออก จนเหลือแค่ บ็อกเซอร์ ตัวเดียวเดินลุยน้ำตามไป เก็บรองเท้าให้เธอ โชคดีที่น้ำไม่เชี่ยวเท่าไหร่ และหลี่จิ่งไม่ได้บาดเจ็บอะไร แต่สิ่งที่เต๋าเห็นต่อหน้าเขาคือ ร่างกายอันเปียกปอนของหลี่ จิ้ง เธออยู่ในชุดสีขาว ซึ่งบางมากซึ่งได้รัดรูปเข้าไปแนบกับผิวหนังของเธอ ทำให้เห็นรูปร่างที่แท้จริง ต้นขาอันที่สมส่วน เข้ากับสะโพกที่ผาย กลมกลึง แต่ไม่หย่อนยาน คล้ายสะโพกนักกีฬา หน้าอกที่ดูเหมือนเล็กแต่ไม่ได้เล็กอย่างที่คิด เป็นหน้าอกที่ดูแน่นกระชับเข้ากับ เอวที่เล็กของเธอเป็นอย่างมาก เต๋าเองต้องรีบเดินเข้าไปประคองตัวเธอ สัมผัสแรกที่โดนกันทำให้น้องชายของเขาตื่นขึ้นมาเห็นได้อย่างชัดเจนโดยที่เขาไม่รู้ตัว เพราะเขาก็ใส่บ็อกเซอร์ ที่เปียกน้ำอยู่ตัวเดียวเท่านั้น ซึ่ง หลี่ จิ้ง ก็แอบเห็น ซึ่งด้วยความเขินอายเลยปฏิเสธไม่ให้เต๋าประคองตัวเธอ เต๋าใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย ทั้งคู่จึงพากันขึ้นรถ ระหว่างทางนั้น ภาพน้องชายของเต๋าที่ตื่นตัว ยังติดตา หลี้ จิ้ง เพราะตั้งแต่เกิดมา เธอก็มีแฟนคนเดียว และเห็นแต่น้องชาย ของแฟนที่เสียไปแล้วของเธอเท่านั้น
“ทำไมของผู้ชายคนนี้ ถึงใหญ่ ยาวมาก และดูแข็งแรงกว่าของสามีที่เธอเคยเห็นตลอดระยะเวลาที่เธอแต่งงานกับเขามา ” เธอได้แต่สงสัยในใจ
ขณะขับรถมาที่รีสอร์ต ต่างคนต่างเงียบ เพราะความรู้สึกในใจ ที่ว้าวุ่นทั้งคู่
รีสอร์ต ท่ามกลางหุบเขาในคืนอันหนาวเย็น
ในอาหารเย็นนั้น หลี่ จิ้ง ได้ชวนเต๋ามารับประทานอาหารด้วยกัน แต่ทั้งคู่ก็แทบที่จะไม่สบตากัน
หรือสนทนาใดๆกันเลย เหมือนมีบางอย่างในใจ ที่อยากจะพูดออกไป แต่พูดไม่ได้
ก่อนที่เต๋าจะแชทไปบอกด้วยประโยคที่สั้นๆว่า “ ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้ ”
แล้ว หลี่ จิ้ง ก็ถามว่า “คุณลำบากมากไหม ที่ต้องนอนในรถ หรือจะให้ฉันเปิดห้องให้คุณนอนอีกห้องหนึ่ง “
แต่เต๋าก็ได้ปฏิเสธไปว่า เขาไม่ลำบากเลยที่ต้องนอนในรถ แล้วก็กล่าวคำว่า ขอบคุณ อีกครั้ง