ฟ้องด้วยภาพ : ก.ไกรศิรกานท์

นิยายสั้นเสียดสีสังคม (Satirize the Society)

ยังไม่ทันที่ศิริมาศจะตอบคำถาม ฝ่ายนั้นก็พูดต่อฉอด ฉอด ฉอด… ราวกับว่าคำถามนั้นไม่ได้มีความหมายที่สลักสำคัญแต่อย่างใด “บอร์ดสวยดีค่ะ คงเตรียมกันมาดีนะคะ ของพี่ไม่ได้เตรียมอะไรมากหรอก เพิ่งทำเมื่อคืนนี้เอง”

ยังไม่ได้สนทนาพาทีกันไปมากกว่านั้น ก็มีเสียงรถยนต์คันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดตรงบริเวณหน้างาน บุคคลที่ก้าวลงมาจากรถคงจะมีความสำคัญไม่น้อย สังเกตได้จากคนที่ล้อมหน้าล้อมหลัง ยังไม่ทันที่จะคิดอะไรต่อไปไกลกว่านั้น ศิริมาศก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างผลักให้เธอเซไปอีกทางหนึ่งเสียแล้ว

“ว้าย ท่าน ผอ. ขอถ่ายรูปด้วยหน่อยนะคะ”

มันผ่านไปเพียงชั่วอึดใจเท่านั้น แต่ศิริมาศรู้สึกว่ามันช่างเป็นเวลาที่เนิ่นนานชั่วกัปชั่วกัลป์ มารู้สึกตัวอีกที ผู้ชายรูปร่างค่อยข้างภูมิฐานที่ใครต่อใครเรียกว่า ‘ผอ.’ ก็เดินออกไปไกลเสียแล้ว

“แหม พี่ก็ลืมชวนคุณน้องถ่ายรูปกับท่าน ผอ.เขตด้วยกัน อุตส่าห์ยืมบอร์ดของน้องเป็นฉากหลังทั้งที”

เสียงของครูอาวุโสคนนั้นชักจะทำให้เธอเริ่มรำคาญ
.
.
.

การนำเสนอผลงานนิทรรศการยังคงดำเนินต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ คุณครูซึ่งเป็นตัวแทนของแต่ละโรงเรียนต่างก็ผลัดกันขึ้นไปบนเวที เพื่อนำเสนอผลการดำเนินงานตามที่แต่ละโรงเรียนได้ปฏิบัติกันมา ใครที่ยังไม่ได้นำเสนอก็เตรียมตัวรอคอยกันไป ส่วนคุณครูของโรงเรียนที่ได้นำเสนอผลงานไปแล้ว ก็ถือโอกาสเดินเที่ยวชมป้ายนิเทศแสดงผลงานของต่างโรงเรียนไปพลาง ๆ ถือเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กันไปในตัว

ท่านผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาออกจากงานไปนานแล้ว เรียกว่ามาเปิดงาน นั่งพอเป็นพิธีให้เก้าอี้อุ่นเท่านั้นเอง

ศิริมาศรู้สึกปวดปัสสาวะขึ้นมาหนึบๆ หันไปโต๊ะข้างๆ ตั้งใจจะฝากครูอาวุโสท่านนั้นดูแลป้ายนิเทศให้สักครู่ แต่เมื่อเห็นว่า ‘คุณพี่’ กำลังง่วนอยู่กับอะไรบางอย่างในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กอย่างทุลักทุเล ศิริมาศก็เลยไม่ได้เอ่ยขอความรบกวนออกไปอย่างที่ได้ตั้งใจ

กลับออกมาจากห้องน้ำก็ถึงคิวของ ‘คุณพี่’ พอดิบพอดี

“อ้าว คุณน้องมาพอดีเลย พี่ฝากดูแลบอร์ดให้พี่เดี๋ยวนะคะ ถึงคิวของโรงเรียนพี่แล้ว”

‘คุณพี่’ เดินอย่างองอาจขึ้นไปบนเวที พร้อมกับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กส่วนตัว

“ก่อนอื่นดิฉันต้องขอแนะนำตัวก่อนนะคะ … ดิฉันเป็นครูมายี่สิบกว่าปี อีกห้าปีดิฉันก็จะเกษียณแล้ว ประสบการณ์การทำงานน่ะหรือคะ”

‘คุณพี่’ เบือนหน้าออกจากไมโครโฟน ทำทีป้องปากหัวเราะน้อย ๆ ราวกับว่าตนเองเป็นสาวแรกรุ่น “เรียกได้ว่าคลุกคลีกับเด็กพิเศษมาตลอดแหละค่ะ รักเหมือนลูกเหมือนหลานแท้ ๆ ของเรา อันนี้ท่านผอ.รู้ดีค่ะ”

‘คุณพี่’ ทำทีเป็นชะเง้อชะแง้มองหาท่านผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ตัวเองกำลังอ้างถึง ซึ่งหล่อนก็ ‘ทำที’ ได้แนบเนียนจนศิริมาศเห็นหลายคนในสถานที่แห่งนั้นต่างต้องพากันชะเง้อมองตาม

“เสียดายนะคะ ท่านออกไปแล้ว เฮ้อ…”

‘คุณพี่’ ทำทีเป็นถอนหายใจด้วยความเสียดายอย่างสุดซึ้งอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะเลื่อนมือไปคลิกเม้าส์คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กส่วนตัวที่ได้เชื่อมต่อกับเครื่องฉายโปรเจคเตอร์เอาไว้เรียบร้อยแล้ว

“เอาเป็นว่าดิฉันคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากนะคะ ยังไงภาพมันก็ฟ้องอยู่แล้ว ดิฉันคิดว่าอาจารย์หลาย ๆ ท่านในที่นี้คงจะเคยได้ยินคำพูดที่ว่า ภาพบางภาพอธิบายได้ดีกว่าและมากกว่าคำพูดนะคะ”

เสียงปรบมือที่ดังเกรียวกราวแทบจะไม่เล็ดลอดเข้าไปในโสตประสาทของศิริมาศได้เลย เพราะภาพที่ ‘คุณพี่’ ถ่ายกับท่านผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาตรงบริเวณหน้าป้ายนิเทศของเธอเมื่อครู่นี้ ได้ ‘ปิดหูปิดตา’ ของเธอเอาไว้หมดแล้ว