Site icon เติมฝัน (TermFun) | อ่านนิยายสั้นออนไลน์ฟรี

พี่หมอครับ ผมจะทำยังไงดี : ไอนที

โดย : ไอนที
ลิขสิทธิ์ : Magic Time Media & เติมฝัน (termfun.com)
 

แสงแดดเลือนราง พระอาทิตย์เริ่มหายไปทางทิศตะวันตก ท้องฟ้าเริ่มมืดลง บรรยากาศชวนให้ผมหดหู่ ผมเพิ่งเรียนวิชาสุดท้ายเสร็จ พระอาทิตย์ก็ตกดินซะแล้ว ทำไมถึงได้เรียนหนักขนาดนี้นะ

“เฮ้ยโลมา ทำไมมึงหน้าเป็นหมาหงอยอย่างงั้นวะ” มะยม เพื่อนของผมถามขึ้น เมื่อเห็นสีหน้าผมดูมืดมนเหมือนกลับท้องฟ้าที่ไร้พระอาทิตย์อยู่ตอนนี้

“กูเหนื่อยว่ะ แต่ละวันทำไมเรียนยากขนาดนี้” ผมนั่งบ่นอยู่กับมะยม ถึงการเรียนในทุกๆ วันนี้ มันหนักมากเลยสำหรับผม ผมไม่คิดว่ามันจะหนักขนาดนี้

“เฮ้ยอย่าเพิ่งเครียดมาก ลองนึกว่ามันสนุกมันก็สนุกนะ” มะยมคงชอบสายนี้มาแต่แรกแหละ แต่สำหรับผม ผมมาเรียนหมอก็เพราะพ่อแม่ของผมอยากให้ผมเรียน แต่ในใจจริงๆ แล้วผมอยากจะเป็นนักเขียนต่างหาก

“เฮ้อ อยากซิ่วว่ะมะยม” ผมนั่งคิดเรื่อยเปื่อยไปสักพัก แล้วผมก็เกิดมีความรู้สึกอยากซิ่วขึ้นมา

“เอาจริงดิ” มะยมถามผมเพื่อความแน่ใจ คงกลัวว่าผมจะทำอะไรโดยไม่คิดให้ดีๆ ซะก่อน แต่จริงๆ แล้วนักเขียนเป็นสิ่งที่ผมใฝ่ฝันแต่แรกอยู่แล้ว ผมว่าผมไม่น่าจะคิดผิดนะ

“จริงแหละ กูอยากเป็นนักเขียน แต่พ่อแม่กูขอให้มาเรียนแพทย์ แต่กูว่ากูไม่ไหว ดูท่าทีแล้วกูต้องคุยกับพ่อแม่เรื่องซิ่วอย่างจริงจังแล้วแหละ”

“เออๆ ถ้ามึงคิดดีแล้วกูก็ไม่มีเหตุผลต้องห้ามมึง กูเอาใจช่วยมึงนะเว้ย” มะยมให้กำลังใจผมพร้อมตบบ่าผมเบาๆ

“เอ้อ แต่ว่าเทอมนี้มึงต้องอดทนเรียนไปก่อนใช่ป่ะ หรือว่าจะดรอป”

“คงไม่ดรอปหรอก กลัวว่าถ้าไม่ได้เจอเพื่อนๆ ไม่ได้เจอพวกมึงกูคงเครียด แล้วอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องน่ะ”

“อ่อ งั้นเรามาสู้กับเทอมนี้ไปด้วยกันก่อน เออมึง มึงรู้สึกว่าเรียนหนักใช่ไหม เนื้อหามันยากก็จริง แต่มันก็อาจอยู่ที่การแบ่งเวลาของเราด้วยนะเว้ย เอางี้ดิ มึงลองไปปรึกษาพี่มาร์ค ดูดิ พี่เขาเรียนเก่งโคตร ได้เกรดสูงทุกเทอมเลย เพราะกูก็เคยไปปรึกษาพี่แกมาเหมือนกัน ได้ทริคมาเยอะเลย”

“อ่ะ งั้นมึงเล่าให้กูฟังได้เลยดิว่าต้องทำยังไง ไม่เห็นต้องให้กูไปถามพี่เขาเลย”

“เฮ้ย กูพูดมันจะดูไม่ขลังเว้ย อีกอย่างกูขี้เกียจเล่าด้วย หิวละ ไปกินข้าวกัน”

“แหม ไอ่สัส ทีเมื่อกี้บอกจะสู้เทอมนี้ไปด้วยกัน ไอ้ควาย”

^^ • ความในใจของมะยม• ^^

ทำไมผมไม่ยอมบอกมันเองน่ะหรอ ถ้าผมบอกมันเองมันก็ไม่เป็นไปตามแผนของผมน่ะสิ ผมน่ะเป็นเกย์ ผมมีเพื่อนสุดหล่ออย่างไอ้โลมา (ไม่น่ามาเป็นเพื่อนมันเลย จะได้จีบไอ้โลมาได้ แต่ไม่เป็นไร เป็นเพื่อนกันนี่แหละ ความสัมพันธ์ยืนยาวดี) ผมเจอพี่มาร์ค รุ่นพี่ปี 2 ในวันที่ผมกับโลมาไปกินข้าวกันที่โรงอาหาร พี่เขาทั้งสูง ทั้งหล่อ ได้ข่าวว่าเรียนก็เก่ง หล่อแบบนี้ถ้าชอบผู้ชายนะ เหมาะกับโลมาเพื่อนผมสุดๆ ผมนึกทันทีเลยว่า ผมอยากให้โลมากับพี่มาร์คเป็นแฟนกันจัง เอาง่ายๆ คือ ผมชิปคู่นี้ #โลมาร์ค  ได้ทีมะยมต้องหาทางให้เขาได้เป็นแฟนกันซะแล้ว

วันต่อมา…

เมื่อคืนหลังจากที่ผมคุยกับพ่อแม่เรื่องจะซิ่วเสร็จ ซึ่งพ่อกับแม่ก็ได้อนุญาตแล้ว ผมจึงได้ทักไปหาพี่มาร์ค เรื่องขอคำปรึกษาในการเรียนตอนปี 1 ของพี่แก ผมไม่เคยคุยกับพี่มาร์คเลย รู้แต่ว่าพี่เขาเรียนเก่ง และพี่เขาก็หล่อด้วย 😉

ผมได้นัดเจอกับพี่มาร์ค หลังจากที่เราทั้งคู่เลิกเรียนเย็นนี้ ผมนั่งรอพี่มาร์คที่คาเฟ่ข้างๆ คณะของเราอยู่สักพัก แล้วพี่มาร์คก็เดินเข้าประตูมานู่นแล้ว

“มานานยังล่ะเรา” พี่มาร์คถามผม

“สักพักแล้วครับ พอดีโลมาเลิกก่อนเวลา พี่มาร์คกินไรมั้ยครับ เดี๋ยววันนี้ผมเลี้ยงเอง”

“ป๋าจริ๊งๆ แต่ไม่เป็นไรพี่ไม่หิว ไว้เราสอบผ่านก่อนค่อยมาเลี้ยงพี่ละกัน” พี่มาร์คพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของพี่เขาให้กับผม

“ได้แน่นอนอยู่แล้วครับ”

“อ้อ ที่บอกพี่ว่าจะซิ่วเมื่อคืน จะซิ่วไปเรียนอะไรหรอ พี่ก็ลืมถาม”

“โลมาว่าจะซิ่วไปเรียนอักษรศาสตร์ครับ ความฝันจริงๆ ของโลมาคืออยากเป็นนักเขียนครับ แต่ว่าที่มาเรียนหมอก็เพราะว่าพ่อแม่ขอให้เรียน ตอนแรกโลมาก็คิดแค่ว่าถ้าตั้งใจจริงๆ คงเรียนได้อยู่แล้วแหละ แต่พอมาเรียนแล้ว โลมาก็ได้รู้ว่าบางอย่างถึงแม้ว่าเราจะตั้งใจจริงๆ แล้ว มันก็ยังยากอยู่ดี เพราะแค่ตั้งใจมันยังไม่พอ เราต้องชอบด้วย”

“คมกริบ” พี่มาร์คแซวคำพูดของผม

“ฮ่าๆ ก็มันจริงๆ นี่ครับ”

“ดีแล้วที่เรารู้ว่าตัวเองชอบอะไร จะได้รีบทำตามความฝัน ดีกว่าเสียเวลาเนอะ มาเดี๋ยวพี่ช่วยเราเอง”

“ชะ ชะ ช่วยผมหรอครับ”

“พี่หมายถึงช่วยติวหนังสือ นี่เราคิดไรเนี่ย” แล้วหน้าใสๆ แก้มขาวๆ ของพี่มาร์คก็เริ่มแดงระเรื่อขึ้น

“นี่พี่เขินผมหรอ” ผมแซวพี่มาร์คคืน

“เปล่า ! มาๆ ติวกันดีกว่า เอ้ย ติวหนังสือกันดีกว่า”

แล้วพี่มาร์คก็ติวให้ผม สอนผมตั้งแต่เรื่องของการแบ่งเวลา พี่มาร์คช่วยไฮไลท์จุดสำคัญๆ ที่ควรรู้ และควรจำได้ให้ผมด้วย ผมขอสารภาพตามตรงเลยครับว่า ตอนที่พี่มาร์คอธิบาย ผมไม่ได้มองชีทตามเลย เพราะผมมัวแต่นั่งมองหน้าพี่มาร์ค หน้าของพี่แกเวลาตั้งใจทำอะไรแล้วมีเสน่ห์มาก ผมมองเห็นถึงความเซ็กซี่นิดๆ เฮ้อ พี่มาร์คทำให้ผมอยากจะรีบกลับห้องทันทีเลย ไปอ่านหนังสือหรอ? ไปชักชักว่าวนี่แหละ ผ่ามมม!!!!!!!

ตอนแรกผมกะจะให้พี่มาร์คแค่บอกผมเกี่ยวกับทริคในการเรียน การอ่านหนังสือสอบก็พอ แต่พี่มาร์คก็อาสาจะติวให้ผมได้ทุกวัน ถ้าวันไหนว่างตรงกัน

“ขอบคุณมากๆ นะครับพี่มาร์ค ที่อุตส่าห์สละเวลามาติวให้โลมา โลมาจะไม่ลืมบุญคุณพี่เลย”

“โห ไม่ต้องขอบคุณพี่ขนาดนั้นหรอก พี่เต็มใจ” ผมยิ้มให้พี่มาร์ค แล้วพี่มาร์คก็ยิ้มให้ผมด้วย ดูเหมือนเราจะเข้ากันได้ดีนะ (ผมนี่มโนอีกแล้ว)

“งั้นผมกลับหอไปอ่านหนังสือเตรียมซิ่วต่อก่อนนะครับ”

“โอเคครับ อย่านอนดึกมากล่ะ สู้ๆนะ พี่รู้ว่าเราซิ่วติดแน่นอน เราทำได้อยู่แล้ว”

“ขอบคุณครับ บ๊ายบายครับพี่มาร์ค”

 แล้วผมกับพี่มาร์คก็นัดติวกันตลอด จนเวลาล่วงเลยไป

1 เดือนผ่านไป

 ณ ตึกอาจารย์ใหญ่…

“เป็นไงบ้างวะโลมา เผลอชอบพี่มาร์คยัง” ไอ้มะยมถามผมขึ้น ขณะที่เรากำลังเรียนแล็บอาจารย์ใหญ่อยู่

“ชอบอะไร มึงบ้าป่ะ”

“สาบานต่อหน้าอาจารย์ใหญ่สิว่ามึงไม่ได้ชอบ มึงกล้าป่าว” ไอ้มะยมคาดคั้นผม ผมมองดูร่างอาจารย์ใหญ่ นี่ถ้าผมโกหกอาจารย์ใหญ่จะมาหลอกผมไหมนะ ผมไม่กล้าโกหก จนต้องบอกความจริงไอ้มะยมไป

“เออ”

“เออ อะไรวะ”

“เออ กูชอบพี่มาร์คแล้ว แล้วมึงก็อย่าไปบอกใครและห้ามล้อกูด้วย”

“อ๊ากกกกก จริงหรอวะ เยส เยส เยส”

“มึงดีใจอะไรขนาดนั้นวะ ทำอย่างกับมึงมีแฟน หรือกูมีแฟนอย่างงั้นแหละ ประสาทละมึงน่ะ ไปหาหมอให้เช็คสมองมึงด้วย” ผมต่อว่ามะยมไป ไม่รู้ว่ามันจะดีใจเว่อวังอะไรขนาดนั้น

^^ • ความในใจของมะยม• ^^

ทุกคนอาจจะงงล่ะสิว่าทำไมผมถึงดีใจขนาดนั้น เพราะมันไม่ใช่แค่ไอ้โลมามันชอบพี่มาร์คน่ะสิ แต่เพราะว่าเมื่อสามวันก่อนพี่มาร์คทักมาหาผมด้วย ทักมาถามว่าโลมามีแฟนยัง ผมเลยบอกพี่มาร์คว่ายังไม่มี แล้วแกล้งแซวๆ พี่มาร์คไป

“ทำไม พี่ชอบเพื่อนผมหรอครับ”

“ก็…ตามนั้นแหละครับ” อ๊ากกกกกกกก พี่มาร์คชอบไอ้โลมาแล้ว พี่มาร์คชอบไอ้โลมาแล้ว พี่มาร์คชอบไอ้โลมาแล้ววววววว ความฝันในการชิปคู่นี้ของผมใกล้จะเป็นจริงแล้ว

ก็ตามนั้นแหละฮะทุกคน แล้ววันนี้ไอ้โลมาก็มาบอกผมว่ามันก็ชอบพี่มาร์คเหมือนกัน เรือของผมนี่แล่นไวจริงๆ ถึงขนาดแม่น้ำนิ่งๆ ก็ยังแล่นอยู่ตลอด ผมไม่จำเป็นต้องพายต่อแล้ว J สมใจไอ้มะยมจริงๆเว้ย

.
.
.

วันต่อมา…

ณ คาเฟ่ข้างๆ คณะ

“พี่มาร์คทางนี้ครับ ผมร้องเรียกพี่มาร์คที่กำลังมองหาผมอยู่” พี่มาร์คมองเห็นผม แล้วก็เดินเข้ามานั่งเก้าอี้ตัวตรงข้าม

“โลมา ก่อนติวหนังสือวันนี้ พี่ขอพูดอะไรกับเราก่อนได้ป่าวครับ”

“อ่อได้สิครับ นี่โลมาก็มีอะไรจะคุยกับพี่มาร์คอยู่เหมือนกันพอดีเลย”

“อ่ะ งั้นโลมาพูดก่อนเลยก็ได้ครับ”

“พี่มาร์คพูดก่อนเลยครับ ผมค่อยพูดก็ได้” พอผมบอกให้พี่มาร์คพูดก่อน พี่มาร์คก็เงียบไปสักพัก เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง แล้วพี่มาร์คก็พูดขึ้น

พี่มาร์คชอบน้องโลมาครับ” ผมได้ยินประโยคนี้ ทำให้ผมอึ้งไปชั่วขณะ ผมมองหน้าของคนที่นั่งตรงข้าม ที่ตอนนี้สายตาของเขาเต็มไปด้วยความอบอุ่น  ทำให้ผมดีใจจนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ คนบ้า ทำไมทำให้ผมรู้สึกดีได้ขนาดนี้กันนะ ในใจผมตอนนี้อีกใจก็อยากจะด่าพี่มาร์ค ว่าทำไมมาบอกชอบผมก่อน เพราะผมตั้งใจไว้ว่า เวลาผมชอบใครผมจะเป็นฝ่ายบอกก่อน วันนี้เรื่องที่ผมจะบอกพี่มาร์คก็คือ เรื่องที่ผมชอบพี่มาร์คนี่แหละครับ

“แล้วโลมามีอะไรจะคุยกับพี่หรอครับ” พี่มาร์คถามผม พร้อมกับเอื้อมมือมาปาดน้ำตาของผม ที่ไหลออกมาจากความดีใจ

“โลมาชอบพี่มาร์คนะครับ คิดไม่ถึงเลยว่าพี่มาร์คจะมาชิงบอกก่อน โลมาชอบพี่มาร์คเหมือนกันครับ” ผมพูดเสร็จ ใบหน้าของชายที่อยู่ตรงหน้าผมก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และน้ำตาคลอๆนิดหน่อย

“วันนี้พี่มีความสุขจัง”

“ผมก็เหมือนกันครับ” แล้วเราสองคนก็ตกลงเป็นแฟนกัน <3

 

^^ •ความในใจของมะยม• ^^

สุดท้ายแล้ว ไอ้โลมากับพี่มาร์คก็เป็นแฟนกันแล้วทุกคน แผนการชิปของผมนี่มันสุดยอดจริงๆ ไม่ชงไม่ชิปมันแล้ว แต่งเลย // เตรียมตัดชุดเจ้าบ่าว

3 เดือนผ่านไป…

ณ คาเฟ่ข้างคณะ

ปิดเทอมสักที คะแนนไฟนอลของผมก็ออกแล้ว ผ่านทุกตัวครับ ดีนะที่มีพี่มาร์คคอยช่วยติวให้ผมตลอด พี่มาร์คนี่เป็นแฟนที่น่ารักของผมจริงๆ นี่ก็ 3 เดือนแล้วที่ผมกับพี่มาร์คเราเป็นแฟนกันมา เราสองคนเข้ากันได้ดีจริงๆครับ พี่มาร์คก็คอยดูแลผมดีมาตลอด วันนี้ก็เป็นวันที่ผลสอบเข้ามหาลัยของผมจะประกาศ ผมกับพี่มาร์คเราก็ชวนกันมาคาเฟ่ประจำของเรา เพื่อมาลุ้นด้วยกัน และผลสอบก็ได้ประกาศออกมาว่า

“ยินดีด้วย คุณสอบผ่าน”

ผมดีใจมากเลยโผเข้าไปกอดพี่มาร์คที่นั่งลุ้นอยู่ข้างๆ ผม พี่มาร์คก็ดีใจไม่แพ้กัน แต่แล้วจู่ความคิดนึงก็โผล่เข้ามาในหัวผม

“โลมาเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ” พี่มาร์คถามผมหลังเห็นผมสีหน้าไม่ค่อยดีใจแล้ว

“ก็โลมาสอบติดแล้ว ต้องไปเรียนที่อื่น เราคงไม่ได้เจอกันบ่อยๆแบบนี้แล้วน่ะสิ”

“โอ๋ๆ ไม่เป็นไร ถึงเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่เราก็วิดีโอคอลหากันได้นะ พี่สัญญาว่า ถ้าพี่ว่างเมื่อไหร่พี่จะไปหาเราที่มอนะ” พี่มาร์คพูดกับผมให้ผมสบายใจพร้อมกับลูบหัวผมเบาๆ

“ถ้าโลมาว่างโลมาก็จะมาหาพี่มาร์คนะครับ”

“นี่เราสองคนก็จะเรียนจบพร้อมกันพอดีเลย ใส่ชุดรับปริญญามาถ่ายรูปกัน” พี่มาร์คหาข้ออ้างมาให้ผมเลิกคิดมาก ซึ่งมันก็ได้ผลจริงๆ
.
.
.

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นปี สองปี สามปี หรือสี่ปี จนตอนนี้เราทั้งคู่ก็ได้เรียนจบแล้ว ความรู้สึกที่เรามีให้กันยังเหมือนเดิม นี่เป็นบทพิสูจน์ให้ใครหลายๆ คน หรือหลายๆ คู่ได้เห็นแล้วนะครับว่า เป็นแฟนกันไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้กันหรืออยู่ด้วยกันตลอด เพราะแต่ละคนต่างมีความฝันเป็นของตัวเอง การเป็นคนในใจของกันและกันมันไม่ได้ขึ้นอยู่สถานที่ครับ …แต่มันอยู่ที่ใจ…

Exit mobile version