ปกรณัมต่างภพ : ก.ไกรศิรกานท์

นิยายสั้นเสียดสีสังคม (Satirize the Society) นิยายสั้นแนวแฟนตาซี (Fantasy)

อันที่จริงความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการของชาวนครเหนือพิภพสามารถที่จะเตือนภัยเหล่านี้ได้ล่วงหน้าถึงเจ็ดวันเป็นอย่างต่ำ แต่ก็นั่นแหละ ด้วยวิทยาการ ‘บางอย่าง’ ที่ล้ำหน้ากว่าของพวกเราชาวนครใต้พิภพ เราจะให้พวกเขารู้เหตุการณ์เหล่านั้นล่วงหน้าเพียงสามชั่วโมงก็พอ ชาวนครเหนือพิภพจะเตรียมตัวป้องกันอย่างไร จะหนีไปอยู่ที่ไหนได้ในระยะเวลากระชั้นชิดเพียงแค่นั้น นอกจากจะต้อง ‘จำใจเสี่ยง’ เปิดประตูเชื่อม ‘พิภพ’ ทั้งสามพันจุดทั่วโลกอย่างเร่งด่วน เพื่ออพยพพลเมืองจากนครเหนือพิภพลงมาอยู่ที่นี่คล้ายเป็น ‘ค่ายอพยพชั่วคราว’ ในวินาทีแห่งการเอาตัวรอดนั้นจะเป็นวินาทีแห่งความวุ่นวาย ความวุ่นวายที่จะเป็นตัวเปลี่ยน ‘ชนชั้นวรรณะ’ ที่ทุกคนมีสิทธิ์จะกำหนดให้แก่ตนเอง …ว่าจะอยู่ที่เดิมตรงนครใต้พิภพแห่งนี้ หรือจะขึ้นไปอยู่บนนั้น ?

น่าเสียดายที่ชาวนครเหนือพิภพไม่มีโอกาสได้เห็นการปลุกระดมทางความคิดดังกล่าว ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าชาวเหนือพิภพประมาทพวกเราเกินไป ชาวนครเหนือพิภพยังคิดว่าพวกเขายังคงสามารถจับความเคลื่อนไหวตลอดจนถึงสถานการณ์และความเป็นไปของชาวนครใต้พิภพเราได้ ผ่านทางเครื่องไม้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของเขา แต่ชาวนครเหนือพิภพกลับลืมไปว่าในช่วงสามร้อยกว่าปีที่ผ่านมานี้ ความเจริญทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของนครใต้พิภพไม่ได้หยุดนิ่ง ทว่ามันกลับผ่านการพัฒนาครั้งแล้วครั้งเล่าจากอนุชนรุ่นหลังของนครใต้พิภพที่ใช้หลักสูตรการศึกษาเดียวกันกับชาวนครเหนือพิภพ จนเราสามารถสร้างคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความเข้มข้นสูงมาป้องกันการตรวจจับสัญญาณจากชาวนครเหนือพิภพได้

หนึ่งในอนุชนรุ่นหลังที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จเหล่านั้นคือวิศวกรเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ผู้มีความสนใจทางด้านปรจิตวิทยาและพาราฟิสิกส์อย่างผม ซึ่งผมต้องขอสารภาพเอาไว้ตรงนี้เลยว่าลำพังคนอย่างผมคงคิดสูตร ทฤษฎี และแก้สมการอันยุ่งยากและซับซ้อนเหล่านั้นได้ไม่สำเร็จหรอก ถ้าไม่มีผู้ช่วยคนสำคัญอย่าง ‘ปู่โสม’  ซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าแกไปล่วงรู้ทฤษฏีอันยุ่งยากซับซ้อนเหล่านั้นได้อย่างไร แต่ก็น่าแปลกที่เมื่อผมนำเอาทฤษฎีต่าง ๆ เหล่านั้นที่แก ‘แนะ’ มาทดลองใช้ มันกลับใช้ได้ผลเป็นที่น่าพึงพอใจทุกครั้งไป

‘เชื่อข้าเถอะน่า ถ้าเอ็งอยากจะช่วยพี่น้องชาวนครใต้พิภพของเอ็ง’ แกชอบพูดภาษาโบราณกับทุกคนที่มาสนทนาด้วย คำสรรพนามแบบนั้น ไม่มีใครในยุคนี้เขาใช้กันแล้ว