ซัมเมอร์นี้ ได้เจอดี : อลัมบรา

นิยายสั้นแนวตลกขบขัน (Comedy) นิยายสั้นแนวเขย่าขวัญและระทึกขวัญ (Thriller)

ในหัวตอนนั่นคิดแต่ว่าผีซ่อนตัวอีส้มแน่ๆ แต่ตอนนั่นฉันคิดว่าเพื่อนก็คงคิดเหมือนกัน แต่เพียงไม่มีใครพูด จากนั้นเราจึงไปเรียกลุงยามมาเปิดประตูให้

“ลุงยามคะ ช่วยมาเปิดประตูห้อง 811 ให้หน่อยได้ไหมคะ พอดีหนูเปิดแล้วมันเปิดยังไงก็ไม่ได้”

“ทำไมจะเปิดไม่ได้ล่ะ งั้นรอสักครู่นะเดี๋ยวลุงไปหยิบกุญแจก่อน”

จากนั้นเราสามคนพร้อมกับลุงยามก็ขึ้นลิฟต์มาพร้อมกัน และลุงยามก็ไปเปิดประตูให้ ซึ่งลุงยามเปิดประตูให้ได้อย่างง่ายดาย เรากับอีฝนหันมามองหน้ากัน เหตุการณ์ทุกอย่างมันเหมาะกันมาก จะมาเล่นอะไรกับพวกกูอีก มีแต่เรื่องตกใจ
.
.
.

และพวกเราก็ไม่พูดกันเลย ฉันคิดว่าทุกคนคงคิดเหมือนฉันแน่ๆ แต่แค่ไม่พูดกัน และฉันเสียดายส้มตำ เลยมาแกะกินกินกัน แต่ตอนนั้นพวกเรากินกันไม่อร่อยแล้ว โดยเฉพาะอีฝนคนที่หาเรื่องอยากกินมันก็กินไม่ลง สถานการณ์ตอนนั้นทุกคนนั่งเงียบมาก และทันใดนั้นไฟก็ดับลงสักพัก

พวกเรารีบโผล่เขากอดกันสามคนเลย เพราะตั้งแต่อยู่มาไฟที่หอไม่เคยดับเลย แล้วมันจะมาดับอะไรวันนี้ วันนี้พวกเราคงเจอดีแล้วแหละ เมื่อพวกเราตั้งสติได้ จึงรีบลงไปหาเพื่อนที่เรียนด้วยกันที่อยู่ชั้น4 ทั้งร้องไห้ นั่งอยู่ห้องเขา 3 ชั่วโมงเลย เลยพากันลงมาข้างล่างเพราะไม่กล้านอนหรือไม่กล้ากลับไปที่ห้อง พวกเรานั่งอยู่ข้างล่างจนถึงเวลาตี 5 ครึ่ง จึงชวนกันไปห้อง อาบน้ำแต่งตัวมาเรียน คืนนั้นเท่ากับว่าพวกเราไม่ได้นอน

เมื่อแต่งตัวกันเสร็จแล้ว เสียงประตูก็ดังขึ้น ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก! ฉันเลยส่งตาแมวประตูดูว่าใคร เมื่อส่องดูแล้วพบว่าเป็นเพื่อนผู้ชายที่อยู่ข้างห้อง เราเลยเปิดประตูเผื่อว่าเขาจะมีธุระอะไร

“ว่าไงคะ” ฉันถามเพื่อนผู้ชายที่อยู่ห้องข้างๆ

“อ่อ….พอดีผมไปเล่นกับเพื่อนอยู่ห้องชั้น 7 และเห็นถังน้ำนี้ของพวกแกอยู่ชั้น 7 เลยเอาขึ้นมาให้”

“อ่อ…ขอบคุณนะคะ”

“ครับผม”

ตอนนั้นฉันก็มาถามเพื่อนว่า มันไปอยู่ชั้น 7 ได้ไงวะ ทุกคนก็สงสัย และจากนั้นพวกเราก็มาขึ้นรถตู้ไปเรียนเหมือนเคย ตอนนั้นฉันก็พยายามเรียนเรียงเหตุการณ์ทั้งหมดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ พอลงรถเท่านั้นแหละ อีฝนเอ่ยขึ้น

“มึงคิดเหมือนกูไหม”

“เออ…กูคิดเหมือนมึง” ฉันตอบมันโดยเร็วพลัน

“มึงคิดว่าอะไรหรอ” ส้มถาม

“แสดงว่าเมื่อคืนที่เราเปิดห้องไม่ได้ ก็เพราะว่าเราอยู่ชั้น7 เราเลยเปิดประตูไม่ได้ ” ฝนตอบ

“แล้วที่อีส้มได้ยินเสียงเรา ตอนนั้นเราอยู่ชั้น7 และมันอยู่ชั้น8 มันเลยได้ยินแต่เสียงแต่หาเราไม่เจอ” ฉันตอบ

“แน่นอน….แสดงว่าเราออกจากลิฟต์โดยไม่มองว่ามันอยู่ชั้นไหน พอลิฟต์เปิด เราเห็นเพื่อนที่อยู่ห้องข้างเรา เราไม่เอะใจเลยเดินออกมา เพราะคิดว่าถึงชั้น 8 แล้ว แต่ไม่ใช่เพราะเพื่อนข้างห้องไปเช่นกับเพื่อนที่อยู่ชั้น7 ” ฝนเล่า

“55555555 อีเหี้ย…..กูนึกว่าผีหลอกกู จนไม่ได้นอน เพราะอีเพื่อนข้างห้องเรานี่เอง กูว่าที่พวกมึงออกจากลิฟต์ที่ตอนอยู่ชั้น 7 พวกนั้นคงงงแน่นอน ป่านนี้คงหัวเราะพวกเราแล้วมั้ง” ส้มตอบ

“เออ กูอายเลยนิ กูไม่กล้ามองเพื่อนข้างห้องเราแล้ว และเหตุการณ์เสือกมาพอดีอะไรกันในวันนั้น”ฉันตอบ

พอรู้ความจริงเราก็พากันหัวเราะ แถมอายอีกด้วย ลงไปร้องไห้กับเพื่อนที่ชั้น 4 สรุปก็คือไม่มีผี แต่เป็นเพราะเราออกจากลิฟต์ผิดชั้น

ฉันจะจดจำเรื่องราวนี้และเล่าจนลูกหลานบวชไปเลย เมื่อเราไปเล่าให้ใครตอนแรกแบบทุกคนคือหลอนมาก แต่พอเล่าเสร็จเขาทั้งขำและด่าพวกเราว่าโง่ 55555 แล้วสถานการณ์แบบนั้นใครจะไปคิดล่ะเนอะ เหตุเกิดตอนเที่ยงคืนไม่ใช่ตอนกลางวันด้วยนั่นตอนกลางคืน ฉันเองยิ่งเป็นคนกลัวผีอยู่ จิตอ่อนด้วย ตอนนั้นก็นึกได้แต่เรื่องผีเท่านั้นแหละ

ไหนจะเหตุการณ์ที่ส้มมันได้ยินเสียงพวกเราแต่หาเราไม่เจอ ไหนจะเรื่องเปิดประตูห้องเราเปิดไม่ได้ แต่พอลุงยามมาเปิดก็เปิดได้ทันที แถมไฟเสือกมาดับอีก ตั้งแต่อยู่มาไม่ว่าจะฝนตก พายุเข้าไฟก็ไม่ดับ เห็นไหมล่ะทุกอย่างทุกเหตุการณ์มันพอดีหมดเลย ฉันก็เชื่อมโยงไปแต่เรื่องผีนั่นแหละ