ความเข้าใจผิด : นักเขียนตัวบี

นิยายสั้นสยองขวัญ (Horror/ Chiller)

เช้าวันต่อมาเธอก็ต้องไปทำงานและทิ้งลูกให้อยู่บ้านกับแหม่ม เมื่อแหม่มมาถึงบ้านก็จดการชงนมไว้ให้นิดซึ่งระหว่างที่เธอกำลังชงนมนั้นเธอก็ได้ยินเสียงของนิดพูดขึ้นมาว่า “พ่อ” เธอคิดในใจทำไมนิดถึงได้พูดว่าพ่อขึ้นมาได้ทั้งๆที่เธอหรือแม่ของนิดก็ไม่เคยสอนให้นิดนั้นพูดคำว่าพ่อเลย แต่ในระหว่างที่เธอกำลังคิดอยู่นั้นเธอก็รู้สึกว่าเหมือนมีคนแอบมองเธอจากหน้าต่างเมื่อเธอหันไปก็ไม่พบใครเธอจึงหันหน้ากลับมาและสิ่งที่ทำให้เธอต้องตกใจนั่นก็คือเธอเห็นศรีษะของผู้ชายคนหนึ่งโผล่ออกมาจากผนัง เธอจึงตกใจแล้วได้ทำขวดนมตก เมื่อเธอก้มตำลงหยิบขวดนมขึ้นมาก็ไม่พบกับใบหน้าของชายคนนั้นแล้ว ซึ่งเธอจำได้ว่าใบหน้าของชายคนนั้นก็คือพ่อของนิดที่เสียชีวิตไปเมื่อสามปีที่แล้วนั่นเอง

ในระหว่างวันที่แหม่มนั้นอยู่บ้านกับนิดเพียงลำพังเธอเริ่มรู้สึกว่าบรรยากาศมันเริ่มเปลี่ยนไปไม่เหมือนกับทุกวันที่ผ่านมา บางทีเธอก็จะรู้สึกเหมือนมีไอเย็นวูบผ่านเข้ามา และยิ่งช่วงนี้นิดพอยิ่งโตก็ยิ่งแปลกๆบางทีก็พูดคนเดียวบ้าง หัวเราะคนเดียวจึงทำให้เธอคิดว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันชักจะไม่ค่อยดีแล้ว

เมื่อลิสากลับมาถึงบ้านก็ทำกิจวัตรเช่นเดิมแบบที่เคยทำทุกวัน เมื่อถึงเวลาเข้านอนเธอและลูกจึงขึ้นไปบนห้องแล้วปิดไฟนอน ยังไม่ทันที่ลิสาจะหลับดีเธอก็ได้ยินเสียงกระซิบที่ข้างหูว่า

“ทำไมนอนไวจังล่ะ555”

เมื่อเธอได้ยินเสียงนั้นเธอก็รู้อยู่แก่ใจดีว่าเสียงนั้นคือเสียงของสามีเธอดังนั้นเธอจึงลืมตาขึ้นและเธอต้องตกใจอย่างสุดขีดเมื่อภาพที่เธอเห็นคือสามีของเธอซึ่งเค้านั้นมาในสภาพที่น่ากลัวและสยดสยอง เบ้าตาข้างนึงทะลักออกมา ส่วนหัวกระโหลกอีกข้างหนึ่งยุบลงไป ลำตัวอาบไปด้วยเลือด เธอพยายามที่จะดิ้นเพื่อหนีแต่เธอก็ขยับตัวไม่ได้ แม้เธอจะพยายามร้องอย่างสุดเสียงเพียงใดเธอก็ไม่สามารถทำได้เพราะเสียงที่เธอพยายามจะเปล่งออกมานั้นมันอยู่เพียงแค่ในลำคอ จากนั้นเธอจึงพยายามท่องบทสวดต่างๆนาๆในใจและนึกถึงหน้าของพ่อแม่แต่วิญญาณของสามีเธอนั้นกลับหัวเราะออกมาอย่างสะใจแล้วก็ค่อยๆจางหายไป

เมื่อเธอหลุดมาได้เธอก็ไม่กล้าที่จะนอนหลับจึงได้โทรไปเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่ได้เจอให้แม่ของเธอฟัง แม่เธอจึงแนะนำให้นำพระที่แม่เคยให้ไว้มาคล้องคอเอาไว้ จากนั้นเธอจึงทำตามและด้วยความเหนื่อยเพลียเธอจึงหลับไปอย่างไม่รู้ตัวเลย