ได้อย่าง เสียอย่าง

เรื่องสั้นๆ สอนใจ ให้แง่คิด

ยังมีชายหนุ่มผู้หนึ่งที่นับได้ว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ เขาพยายามศึกษาหาความรู้ในศาสตร์หลายๆ แขนง แต่ทว่าในอาชีพการงาน กลับมีความสำเร็จเพียงระดับหนึ่ง ไม่สามารถที่จะเจริญก้าวหน้าไปถึงยังจุดที่ตนเองหวังไว้ได้

เขาขบคิดไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเหตุใด จึงได้ไปขอคำชี้แนะจากอาจารย์เซน

เมื่ออาจารย์เซนได้รับฟังปัญหาของชายหนุ่ม กลับไม่เอื้อนเอ่ยอันใดออกมา เพียงแต่เชื้อเชิญให้ชายหนุ่มรับประทานอาหารเจด้วยกันที่วัด

บนโต๊ะเรียงรายไว้ด้วยอาหารเจละลานตานับร้อยชนิด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารที่ชายหนุ่มไม่เคยพบเห็นมาก่อน เขาจึงได้พยายามลิ้มลองอาหารเหล่านั้นให้ครบทุกอย่าง ต่อเมื่อรับประทานครบ จึงค่อยวางตะเกียบและรู้สึกว่าตนเองอิ่มเกินไป

อาจารย์เซนถามว่า “อาหารที่ท่านรับประทานลงไปนั้นมีรสชาติเช่นไรบ้าง?”

ชายหนุ่มตอบด้วยความลำบากใจว่า “มีรสชาติร้อยพัน ยากที่จะจำแนกแยกแยะ สุดท้ายรู้สึกแค่เพียงว่ากระเพาะขยายอย่างยิ่ง”

อาจารย์เซนถามต่อไปว่า “เช่นนั้นแปลว่าท่านรู้สึกสบายดีและพอใจใช่หรือไม่?”

ชายหนุ่มตอบว่า “มิใช่ กลับทรมานอย่างยิ่ง”

เมื่ออาจารย์เซนได้ฟัง ก็เพียงแต่ยิ้มเล็กน้อย ไม่พูดจา
.
.
.

วันต่อมาอาจารย์เซนชวนชายหนุ่มปีนขึ้นไปบนยอดเขา

แต่เมื่อทั้งสองปีนขึ้นไปถึงกลางทาง ชายหนุ่มได้พบกับหินคริสตัลสีสดสวยแวววาวมากมาย จึงเกิดความอยากได้ และเก็บหินเหล่านั้นใส่ย่ามของตนจนเต็มแน่น

แต่น้ำหนักของหินที่มากเกินไป ทำให้เขาไม่สามารถปีนขึ้นไปต่อได้ ขณะเดียวกันก็ไม่อาจตัดใจทิ้งคริสตัลเหล่านั้น

ขณะที่ยืนลังเลอยู่กลางทางนั้นเอง อาจารย์เซนจึงได้กล่าวขึ้นว่า “ท่านควร วางลง ได้หรือยัง? มิเช่นนั้นจะขึ้นไปถึงจุดสูงสุดได้อย่างไร?”

เมื่อชายหนุ่มได้ฟัง ก็พลันกระจ่างแจ้งในใจ สองมือวางก้อนหินเหล่านั้นลง พลางป่ายปีนขึ้นไปถึงยอดภูสูงได้สำเร็จ

จากนั้นจึงกราบลาอาจารย์เซนเดินทางกลับ
.
.
.

เมื่อเวลาผ่านไปอีกหลายปี ชายหนุ่มก็ประสบความสำเร็จดังที่มุ่งหวังไว้

ปัญญาเซน

รับประทานอาหารก็ดี ปีนเขาก็ดี การศึกษาหาความรู้ก็ดี
ขณะที่ได้มาซึ่งสิ่งใด ย่อมต้องสูญเสียสิ่งหนึ่งไปเสมอ
บนเส้นทางชีวิต มนุษย์ไม่สามารถครอบครองทุกอย่าง
ยังคงมีหลายอย่างที่จำต้องยอมสละละทิ้ง เพื่อให้ได้มาซึ่งบางสิ่ง
เมื่อเรียนรู้ที่จะ “วางลง” จึงค่อยเข้าใจถึงความสุข
จึงค่อยรู้ซึ้งเมื่อ “ได้รับ”

เครดิต นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 162 มิถุนายน 2557