วิธีเขียนนิยาย โดนเน้นให้คนช่วยวิจารณ์ระหว่างเขียน

สาระเพื่อนักเขียน

1. เรียนการเขียนด้วยตัวเอง

1. อ่าน เราต้องอ่านมาก ๆ อ่านให้หมด ทั้งแนวที่เราต้องการเขียน แล้วก็แนวที่ไม่ได้ต้องการจะเขียนด้วย ไม่ต้องไปกลัวว่าถ้าไปอ่านนิยายของคนอื่นแล้วมันจะส่งผลต่อการเขียนนิยายของเรา คือคนเรามันชอบเหมือนกันได้ ถ้าเราไม่ได้ไปลอกงานเค้ามา มันก็โอเคแล้ว
2. รู้จักฟัง และจดบันทึกไปด้วย
3. เขียน เราต้องเขียนให้เยอะ ๆ ฝึกเขียนบ่อย ๆ ฝึกทุกวันไปเลย อยากเขียนอะไรก็เขียนลงไป
4. หากลุ่มอยู่ เราต้องเข้าไปอยู่ในกลุ่มคนแบบเดียวกัน สนใจเรื่องเดียวกัน แล้วช่วยกันแลกเปลี่ยนความเห็น และวิจารณ์งานเขียนของคนในกลุ่ม
5. รู้จักเรียนรู้เพิ่มเติม เรียนรู้วิธีการเขียนนิยายจากที่ที่เค้าเปิดสอน หาหนังสือเกี่ยวกับการเขียนนิยายมาอ่าน หรือว่าจะเข้าไปอยู่ในชมรมที่รวบรวมนักเขียนไว้

2. การสร้างกลุ่มเพื่อวิจารณ์

การเข้ากลุ่ม หรือการสร้างกลุ่มขึ้นมา เราไม่จำเป็นต้องเอาคนเก่ง หรือว่าคนที่เค้าประสบความสำเร็จแล้วมาอยู่ในกลุ่มด้วยก็ได้ อาจจะเริ่มจากการหาคนที่เพิ่งเริ่มเขียนนิยายเหมือนกัน แล้วหาเวลาพบปะกัน เดือนละครั้งสองครั้ง จะได้มาวิจารณ์งานเขียนให้กันได้ แล้วการจัดกลุ่มแบบนี้เนี่ย ก็เป็นเรื่องที่นักเขียนมือใหม่ควรทำมาก ๆ จะให้ดีสมาชิกในกลุ่มไม่ควรเกิน กลุ่มละ 5 คน ส่วนคนที่ตั้งกลุ่มทางเน็ตแล้วไม่เคยเจอสมาชิกในกลุ่มมาก่อน เพื่อความปลอดภัยควรนัดเวลาในการวิจารณ์งาน แล้วค่อยส่งงานลงไปในแชทตามเวลาที่นัดไว้
ข้อเสนอแนะในการวิจารณ์งานเขียน
1. ต้องมีความจริงใจ และซื่อสัตย์ บอกไปตรง ๆ เลยเวลาที่งานของเพื่อนในกลุ่มมันยังไม่โอเค พล็อตไม่ได้ บุคลิกตัวละครไม่ปัง ไม่ต้องไปโกหก เพราะมีแต่คนที่อยู่ในกลุ่มนี่แหละที่จะบอกกันได้
2. อย่าหน้าบาง กลุ่มแบบนี้เข้าไปครั้งแรกหลาย ๆคนอาจจะไม่ชิน โดยเฉพาะตอนที่มีคนมาวิจารณ์งานเขียนของเราแรง ๆ แบบส่งงานไหนลงไปไม่เห็นด้วยซักอย่าง แต่สิ่งที่เค้าวิจารณ์ คืองานเขียน ไม่ใช่ตัวเรา อย่าไปใช้อารมณ์โต้ตอบ หรือคิดมากจนเก็บเอามาน้อยใจ สิ่งที่ควรทำคือ เก็บคำวิจารณ์ไปคิด แล้วก็พิจารณาต่อ


3. พิจารณาคำวิจารณ์เหล่านั้นให้ดี ๆ คำวิจารณ์พวกนั้นเราต้องรู้จักแยกแยะ ว่ามันเหมาะกับงานของเราไหม คือบางอย่างมันก็ใช้ไม่ได้กับงานของเราไง หรือบางทีเราอาจจะคิดว่างานนี้ไม่ควรเปลี่ยนอะไรแล้ว เราก็เก็บคำวิจารณ์พวกนั้นไปใช้ในงานหน้าก็ยังได้
4. ใจเขาใจเรา เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ เราต้องมีความตรงไปตรงมาในการวิจารณ์ก็จริง แต่มันไม่ได้หมายความว่าเราจะไปวิจารณ์งานคนอื่นแบบหยาบคายได้ คือคนที่อยู่ในกลุ่มเนี่ย ก็เป็นกลุ่มคนที่เพิ่งเริ่มมาเขียนนิยายกันทั้งนั้น มันยังมีเวลา ยังมีโอกาสในการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ทำผิดพลาดอีกเยอะเพราะฉะนั้นเวลาที่จะวิจารณ์ใครเราต้องวิจารณ์ดี ๆ ใช้คำระวังหน่อย ให้เหมือนที่เราอยากให้คนอื่นวิจารณ์งานเรานั่นแหละ
5. สนับสนุน และให้กำลังใจกันและกัน นอกจากการวิจารณ์งานเขียนแล้วการให้กำลังใจกันก็เป็นอีกหนึ่งประโยชน์ที่ดีที่สุดของการตั้งกลุ่มเลยก็ว่าได้ คนในกลุ่มต้องเข้าใจว่าทุกคนที่อยู่ในกลุ่มนี้ ต่างก็พยายามจนถึงที่สุดเหมือนกัน เพื่อที่จะทำให้งานเขียนของตัวเองได้ตีพิมพ์ เวลาที่มีคนใดคนหนึ่งถูกปฏิเสธงาน หรือเขียนงานไม่ออก เราควรสนับสนุน แล้วก็ให้กำลังใจกัน
6. เป็นมิตรต่อกัน ธุรกิจด้านการเขียนเนี่ย มันมีศัตรูเยอะแยะมากมาย การที่เราได้มารู้จักคนในกลุ่ม แล้วกลายเป็นเพื่อนกันนี่แหละ คือสิ่งที่ดีที่สุด เพราะศัตรูเราก็จะลดลงไปด้วย
7. เตรียมตัวให้พร้อม การวิจารณ์งานคนอื่น ไม่ใช่ว่าเราจะวิจารณ์ไปแบบส่ง ๆได้ เราต้องเตรียมตัวสำหรับการวิจารณ์ให้ดี เพราะคนที่เอางานมาให้คนในกลุ่มวิจารณ์เค้าก็ต้องคาดหวังว่าจะได้รับคำวิจารณ์ที่มันมีประโยชน์ แล้วก็มีคุณภาพอยู่แล้ว

วิธีวิจารณ์ควรพิจารณาหัวข้อต่อไปนี้

1. การสร้างตัวละคร เราต้องดูว่าตัวละครแต่ละตัวมีอารมณ์ลึกซึ้งไหม มีการเปลี่ยนแปลงรึเปล่า แรงจูงใจ และการกระทำของตัวละครมีความสมเหตุสมผลรึยัง แล้วเขาดูเป็นคนดี หรือว่าร้ายจริง ๆไหม
2. บทสนทนา บทสนทนามันมีความสมจริงไหม มันสมจริงพอที่จะให้คนอ่านจินตนาการได้ไหมว่า เนี่ย ตัวละครกำลังพูดกันอยู่นะ
3. ฉาก สถานที่และเวลา รายละเอียดต่าง ๆของพวกฉาก สถานที่แล้วก็เวลาที่เขียนลงไป มันมากพอให้คนอ่านจินตนาการได้ไหมว่ารอบ ๆตัวละครที่บรรยายเนี่ยมันมีบรรยากาศยังไง อย่างเขียนว่ามันดูโอ่อ่า แล้วคนอ่านเค้าคิดว่ามันโอ่อ่าจริงไหม หรือแค่เขียนไปเฉย ๆว่ามันโอ่อ่า
4. คนเล่าเรื่อง หรือมุมมอง ดูว่าเล่าเรื่องได้เหมาะสมไหม อ่านแล้วเข้าใจ หรือว่าอ่านแล้วมันไม่เข้าใจ เพราะเล่าเรื่องกลับไปกลับมา
5. การพัฒนาเรื่อง ดูว่าทุกอย่างในเรื่องมันเคลื่อนไปแบบสมเหตุสมผลไหม คนอ่านเนี่ยอ่านแล้วเข้าใจรึเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในเรื่อง หรืออ่านแล้วงง แล้วเหตุการณ์ในเรื่องมันมีที่มาที่ไปรึเปล่า หรืออยู่ดี ๆก็โผล่มาเลย
6. การดำเนินเรื่อง อันนี้ต้องดูว่าเรื่องมันเดินช้า หรือว่ามันเร็วเกินไปไหม คือถ้าเรื่องมันเดินช้าไปคนอ่านก็จะเบื่อเพราะกว่าจะอินกับเรื่องมันก็ใช้เวลานาน แต่ถ้าเร็วไป คนอ่านก็อาจจะตามไม่ทัน หรือว่าลืมเหตุการณ์ในเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไปได้
7. ภาษาสำนวนที่ใช้ ภาษามันเวิ่นเว้อไหม การเขียน เขียนแบบวกไปวนมา อ่านแล้วดูซ้ำจำเจเกินไปรึเปล่า