นัท มีเรีย กลับบ้านเกิดสวิตเซอร์แลนด์ ท่ามกลางความสุขหลังเริ่มต้นชีวิตใหม่

เรื่องที่น่าสนใจล่าสุด

ท่ามกลางลมหนาวที่พัดโชยอ่อนๆ และทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาสูงตระหง่านเบื้องหน้า นักแสดงสาวมากความสามารถ “นัท มีเรีย” หรือ มีเรีย เบเนเดตติ ได้ก้าวเท้ากลับสู่ดินแดนบ้านเกิดที่เธอจากมา ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากใช้ชีวิตในเมืองไทยมาอย่างยาวนาน การเดินทางครั้งนี้เปรียบเสมือนการเยียวยาหัวใจหลังผ่านช่วงเวลาที่หัวใจต้องปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 นัท มีเรีย ได้แชร์ภาพความประทับใจผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @myriabenedetti พร้อมแคปชั่นสั้นๆ แต่กินใจว่า “กลับบ้านเกิด” ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนคลับและเพื่อนๆ ในวงการบันเทิงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเพื่อนสนิทอย่าง “แอน ทองประสม” ที่ได้เข้ามาร่วมแสดงความยินดีด้วยข้อความอันอบอุ่นว่า “ตักตวงความสดชื่นมาให้เต็มที่นะเพื่อน” สะท้อนมิตรภาพอันแน่นแฟ้นที่มีมาอย่างยาวนาน

ภาพที่นัท มีเรีย โพสต์ลงในอินสตาแกรมนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ภาพถ่ายธรรมดา แต่เปรียบเสมือนภาพวาดที่มีชีวิต แสดงให้เห็นถึงความงดงามอันน่าทึ่งของธรรมชาติสวิส ทั้งทิวเขาสูงสง่าที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน ทะเลสาบสีฟ้าใสราวกับกระจกสะท้อนท้องฟ้า ทุ่งหญ้าสีเขียวสดที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา และดอกไม้นานาพันธุ์ที่ผลิบานอวดสีสันสดใสในฤดูใบไม้ผลิ ภาพเหล่านี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความงดงามของธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความสงบในจิตใจของนักแสดงสาวที่กำลังค้นหาความสุขใหม่หลังจากเพิ่งผ่านจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต

สำหรับนัท มีเรีย นี่ไม่ใช่เพียงการกลับบ้านธรรมดา แต่เป็นการกลับไปสู่รากเหง้าและจุดเริ่มต้นของชีวิต หลังจากที่เธอได้ประกาศยุติความสัมพันธ์กับนักแสดงหนุ่ม อั้ม อธิชาติ ซึ่งเป็นข่าวใหญ่ที่สร้างความตกใจให้กับวงการบันเทิงไทยไม่น้อย ทำให้เธอกลับมาครองโสดอีกครั้งในวัย 50 ปี การตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิดจึงอาจเป็นการพักใจและเติมพลังให้กับตัวเองก่อนที่จะกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง

น่าสนใจว่า ตลอดเส้นทางการเป็นนักแสดงในประเทศไทย นัท มีเรีย ได้สร้างผลงานที่โดดเด่นมากมาย ทั้งงานละคร ภาพยนตร์ และรายการโทรทัศน์ จนได้รับความรักและความชื่นชมจากผู้ชมอย่างกว้างขวาง ด้วยความสามารถทางการแสดงและบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ เธอจึงได้รับฉายาว่าเป็น “นางเอกลูกครึ่งไทย-สวิส” ที่มีเสน่ห์และความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์ผ่านการแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม

ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2568 เป็นช่วงเวลาที่นัท มีเรีย ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต เมื่อเธอได้ออกมาประกาศยุติความสัมพันธ์กับ อั้ม อธิชาติ หลังจากคบหาดูใจกันมาเป็นเวลานาน โดยเธอได้ให้สัมภาษณ์ด้วยความเศร้าแต่เด็ดเดี่ยวว่า ทั้งคู่ได้พยายามประคับประคองความสัมพันธ์มาแล้ว แต่สุดท้ายก็จำเป็นต้องแยกทางกัน อย่างไรก็ตาม เธอยังคงรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในฐานะเพื่อน นับเป็นการจบความสัมพันธ์อย่างสวยงามและมีวุฒิภาวะ

“ชีวิตต้องเดินต่อไป และสิ่งที่สำคัญคือการได้เรียนรู้จากทุกความสัมพันธ์ที่ผ่านเข้ามา” นี่คือประโยคที่นัท มีเรีย ได้กล่าวไว้หลังจากการประกาศเลิกรา สะท้อนถึงมุมมองและทัศนคติที่เข้มแข็งของเธอต่อการใช้ชีวิต

การเดินทางกลับสวิตเซอร์แลนด์ครั้งนี้ จึงไม่เพียงแค่เป็นการพักผ่อนหรือท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นการได้กลับไปสัมผัสกับความทรงจำและรากเหง้าของตัวเอง หลังจากที่ต้องเผชิญกับความผันผวนทางอารมณ์จากการเปลี่ยนแปลงในชีวิตรัก การได้กลับไปยังสถานที่ที่เราเติบโตมา มักจะช่วยให้เรามองเห็นตัวเองชัดเจนขึ้น และได้ทบทวนเส้นทางชีวิตที่ผ่านมาว่าเราได้เดินทางมาไกลแค่ไหนแล้ว

ในภาพที่โพสต์ลงอินสตาแกรม เราจะเห็นรอยยิ้มที่สดใสและประกายตาที่เปล่งปลั่งของนัท มีเรีย ท่ามกลางฉากหลังที่เป็นธรรมชาติอันงดงาม สะท้อนให้เห็นว่าเธอกำลังมีความสุขและสงบในใจ การได้ห่างไกลจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่และสื่อมวลชนที่คอยติดตามชีวิตส่วนตัวของเธออยู่ตลอดเวลา ทำให้เธอมีโอกาสได้อยู่กับตัวเองและใช้เวลาครุ่นคิดถึงอนาคตที่รออยู่เบื้องหน้า

แฟนๆ และเพื่อนๆ ในวงการต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจนัท มีเรีย อย่างล้นหลาม เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยความเข้มแข็งและทัศนคติที่ดีของเธอ ทำให้ทุกคนเชื่อมั่นว่าเธอจะผ่านช่วงเวลานี้ไปได้อย่างสวยงาม

ในวัย 50 ปี นัท มีเรีย ยังคงรักษาความสดใสและเสน่ห์เฉพาะตัวได้อย่างน่าทึ่ง การได้กลับบ้านเกิดครั้งนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของบทใหม่ในชีวิตของเธอ ที่จะเติมเต็มด้วยประสบการณ์และความสุขใหม่ๆ ที่รออยู่ข้างหน้า

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าเส้นทางชีวิตของนัท มีเรีย จะพาเธอไปทิศทางใด แฟนๆ ต่างเชื่อมั่นว่าเธอจะยังคงเป็นนักแสดงที่มีความสามารถและเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงหลายคนที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิต ให้กล้าที่จะก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและภาคภูมิ เพราะชีวิตยังคงงดงามเสมอ ตราบใดที่เรายังมีกำลังใจและมุมมองที่ดีต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้น